วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

“ลับ ลวง พราง ภาคพิสดาร” : “ทักษิณ-สนธิ ลิ้ม” ดิจิตอลขมังเวทย์

หมวดข่าว : วิเคราะห์

วาสนา นาน่วม เขียนหนังสือการกุศลเพื่อทหาร ชายแดนภาคใต้ เขาพระวิหาร และสมทบทุนสร้างพุทธมณฑลล้านนา จ.เชียงใหม่ ชื่อ "ลับ ลวง พราง ภาค" โดยได้ ขนานนาม "ทักษิณ-สนธิ ลิ้ม ดิจิตอลขมังเวทย์ และบทบาท "หมอผีเขมร ของ เนวิน ก่อนเนรคุณ "นาย" หนังสือนี้ยังได้เปิดปมสงครามไสยศาสตร์-ความเชื่อ / "ทักษิณ-ตากสิน" กับข้อหานิยมประธานาธิบดี-ล้มล้างระบอบ โยงความเชื่อ ชาติภพก่อน "พระเจ้าตากสิน "/เบื้องหลังการปฏิวัติ ล้มระบอบทักษิณ พิธีกรรมที่วัดอรุณฯ-ดอยสุเทพฯ/เปิดการล้มแผนแก้กรรม-สะเดาะเคราะห์ของ "ทักษิณ ก่อนกลายเป็นผู้ร้ายถูกออกหมายจับ

ในหนังสือที่มีจำนวน 303 หน้า จำนวน 35 ตอน

หนังสือ “ ลับ ลวง พราง ภาคพิสดาร ” ไสยศาสตร์ปฏิวัติ อวิชชาธิปไตย ” เปิดปมมนต์ดำสาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องโดนปฏิวัติล้มล้างอำนาจ นอกจากพฤติกรรมเหลิงอำนาจ และวางตัวไม่เหมาะสมแล้ว ยังมีสาเหตุหนึ่งมาจากความเชื่อที่ว่า เขาคือ พระเจ้าตากสินฯ กลับชาติมาเกิด อันเป็นความเชื่อตามตำนานและประวัติศาสตร์แห่งความขัดแย้งแย่งชิงอำนาจ เมื่อเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ซึ่งเคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาก่อน แต่ที่สุดเมื่อทรงขึ้นครองราชย์ เป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ต้นราชวงศ์จักรี ได้มีการประหารพระเจ้าตากสินฯ ซึ่งโดนกล่าวหาว่า "สติวิปลาสฟั่นเฟือน" และถูกทุบด้วยท่อนจันทน์ จนนำมาซึ่งตำนาน "คำสาป "ของพระเจ้าตากสินฯ ก่อนสวรรคต จนทำให้มีการโยงกับแนวคิดเรื่องการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือแนวคิดเรื่องประธานาธิบดี นั่นเอง

แต่กระนั้น ก็ยังรวบรวมความเชื่อและตำนานเรื่องพระเจ้าตากสินฯ ที่ลบล้างความขัดแย้งกับ เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ที่ว่าพระองค์ทรงรู้เห็นให้พระเจ้าตากสินฯ หนีไป โดยมีนายทหารใกล้ชิดที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนพระเจ้าตากสินฯ ยอมถูกประหารแทน และมีทหารเอก 10 คน ได้นำพระเจ้าตากสินฯ หนีไปยังภาคใต้ จนเป็นตำนานของ วัดเขาขุนพนม จ.นครศรีธรรมราช ที่พระองค์ทรงไปบวช แล้วละสังขาร ก่อนที่ทหารที่ตามฆ่าพระองค์จะมาถึง

นี่เองที่ว่าเพราะเหตุใด พ.ต.ท.ทักษิณ กำหนดต้องไปทำพิธีบวงสรวง เป็นวัดที่ 99 วัดสุดท้ายในการเดินสายทำบุญสะเดาะเคราะห์แก้กรรม หลังจากที่กลับประเทศ ครั้งล่าสุดเมื่อ 28 ก.พ. 2551 แต่ก็มีอันไม่ได้ไปทำพิธี แต่มีนายสมชาย และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว ไปทำพิธีแทน


วาสนา นาน่วม ออกตัวไว้ในหนังสือการกุศลเล่มนี้ว่า

"ไม่ต้องการลบหลู่ความเชื่อของคนที่เคารพรักบูชาพระเจ้าตากสิน แต่แค่ต้องการสะท้อนความเชื่อในอีกมุมหนึ่งที่ถูกลากโยงไปเกี่ยวข้องกับการเมือง เพื่อหวังเป็นจิ๊กซอว์ต่อเติมความเข้าใจเบื้องหลังเหตุการณ์สำคัญทางการเมือง ที่อาจขาดหายเว้นวรรคไป เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจภาพรวม และสะท้อนให้เห็นว่า นอกจากจะเป็นการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจกันแล้ว ยังมีการต่อสู้ทางไสยศาสตร์ อันเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาวุ่นๆ ที่เกิดขึ้นด้วยนั่นเอง และปรากฏชัดถึง การทำสงครามไสยศาสตร์ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยมี นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ เป็นตัวแทน ในการต่อสู้เพื่อแก้มนต์ดำที่ครอบการเมืองไทย ที่บางเรื่องดูมีน้ำหนัก แต่หลายเรื่องก็กลายเป็นความเข้าใจผิด เพราะหลงอยู่ในศึกไสยศาสตร์"
หนังสือมีการหยิบยก กรณีที่ นายสนธิ เปิดศึกไสยศาสตร์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งการแฉเรื่องพิธีในวัดพระแก้ว การทุบพระพรหมเอราวัณ การทำลายปราสาทหินพนมรุ้ง การทำพิธีที่พระพรหมที่ทำเนียบรัฐบาล การสร้างพระหน้าเหลี่ยม หรือความเชื่อเรื่อง เป็นกษัตริย์พม่า ที่มีรูปวาดหน้าตาเหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ รวมทั้ง พฤติกรรมความเชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ในเรื่องโชคลาง โชคชะตาและการถือเคล็ดๆ ต่าง โดยเฉพาะหลังถูกปฏิวัติและกลับเมืองไทย ที่ต้องเร่งทำบุญสะเดาะเคราะห์ เพื่อหวังพ้นคดีและกลับมาครองอำนาจอีกครั้ง

แต่สุดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็พ่ายแพ้ทั้งสองศึก ต้องกลายเป็นคนไม่มีแผ่นดินอยู่ เร่ร่อน ด้วยวิบากกรรมยังไม่จบสิ้น หากแต่ความแค้น ทำให้เขาประกาศต่อสู้ทวงคืนอำนาจ ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม

รวมทั้งเป็นการวิเคราะห์ความเกี่ยวโยงระหว่าง ความเชื่อของฝ่ายตรงข้ามที่เป็นคนในระดับสูง จนถึงระดับปฏิบัติการ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับชาติปางก่อนที่เคยเป็น พระเจ้าตากสิน กับเหตุจูงใจในการปฏิวัติล้มระบอบทักษิณ หรือไม่ และเปิดเผยข้อมูลบางอย่าง ที่ทำให้มีน้ำหนักเชื่อมโยง ทั้งการที่มีคนบางกลุ่ม และบิ๊กทหารบางคนไปทำพิธีที่วัดอรุณราชวราราม ที่อยู่ติดกับ พระราชวังเดิมของพระเจ้าตากฯ ที่กองทัพเรือ ก่อนที่จะมีการปฏิวัติ
ในจำนวนนี้ สายข่าวฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รายงานให้ พ.ต.ท.ทักษิณ รับทราบ นั้น มีการพาดพิง พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผอ.รมน. ที่ในอดีตเคยอยู่ฝ่ายคณะปฏิวัติ และเคยโดนกล่าวหาในคดีคาร์บอมบ์ ลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างไรก็ตาม พล.อ.พัลลภ ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง ไม่เคยมีความเชื่อดังกล่าว และตนเองเป็นนักรบ ไม่เคยยุ่งเกี่ยวในเรื่องพิธีกรรมไสยศาสตร์ใดๆ “ ผมไม่เคยเล่นเรื่องแบบนี้ ”
หรือแม้แต่ ข่าวลือในเมืองเหนือ ถึงพิธีเชือดไก่ บนดอยสุเทพฯ ที่ไม่มีใครรู้ว่า จริงหรือไม่ แล้วใครเป็นคนลงมือทำพิธี แต่ก็มีความพยายามจะโยงกับการแก้เคล็ดไสยศาสตร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยนั่นเอง
ในหนังสือ มีการยกตัวอย่าง ความเชื่อดังกล่าว เช่น ทั้งการเปรียบเทียบ พระเจ้าตากสินฯ เป็นสามัญชนเชื้อสายจีน ที่นำกู้ชาติสำเร็จและ “ ปราบดาภิเษก ” ขึ้นเป็นกษัตริย์ และ การเขียนชื่อ THAKSIN เป็น TAKSIN หรือ แม้แต่ ในยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีผู้กำกับชื่อดัง มีแผนที่จะสร้างภาพยนตร์เรื่อง “ พระเจ้าตากสินฯ ” ที่จะให้ โอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร เป็นผู้แสดง หรือแม้แต่การที่ เสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิทบ. ทำการฝึกกองกำลังให้กลุ่มเสื้อแดง ที่ใช้ชื่อว่า “ นักรบพระเจ้าตากฯ ” ที่แม้ว่า พล.ต.ขัตติยะ จะออกตัวว่า ไม่เกี่ยวกับความเชื่อนี้ก็ตาม
พ.ต.ท.ทักษิณ เอง เดิมไม่เชื่อเรื่องชาติภพก่อนจะเป็นพระเจ้าตากสินฯ เพราะเป็นที่เคารพเชื่อถือของผู้คนมากมาย ซึ่งในจำนวนนี้ อาจไม่ชอบเขา แต่เมื่อมีหมอดูหลายสำนักและพระครู ทายทัก เขาจึงเริ่มเชื่อและโยงใยเรื่องต่างๆ จนเขาต้องไปทำพิธีที่วัดเขาขุนพนม
ในหนังสือ ยังโยงถึงการที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งก็มีความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ และภายหลังปรากฏชัดในภาพของ ศาสดาจากกรณีเรื่อง การพรมน้ำมนต์ในทำเนียบฯ เรื่องผ้าอนามัยที่ลานพระรูปทรงม้าฯ ได้เคยมีการเปิดประเด็น โจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนจะปฏิวัติ แล้วไปทำพิธีทำบุญประเทศในวัดพระศรีรัตนศาสดารามและปราสาทพระเทพบิดร ซึ่งถูกมองว่า เป็นการ “ ปราบดาภิเษก ”
บนเวทีพันธมิตรฯ นายสนธิ ได้เผยเบื้องหลังในเชิงไสยศาสตร์ว่า การกระทำนี้ เป็นเคล็ดเพื่อเทียบเสมอพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่ง โดยอ้างว่า ในวันนั้นมีการดึงหินที่อยู่ด้านหลังขององค์พระแก้วมรกตลงมาก้อนหนึ่ง โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า ที่ด้านหลังองค์พระแก้วมรกตนั้น มีก้อนหินอยู่จริงหรือไม่
“ พระแก้วมรกต ที่มีการดึงหินก้อนหนึ่งออกมา เพราะมีคนใจชั่ว ร่วมกับคนบางคนในสำนักพระราชวัง ให้หมอเขมรเข้าไปแกะหินก้อนนี้ออกมา หินก้อนนี้ทำหน้าที่ส่งพลังออกมา ” นายสนธิ กล่าว
นายสนธิ ยังจุดประกายความคิดให้คนไทย ได้ฉุกคิดว่า เหตุการณ์ทุบทำลาย พระพรหม เมื่อ ตี 1 วันที่ 21 มีนาคม 2549 นั้นไม่ใช่อุบัติเหตุ หรือเป็นเรื่องธรรมดา หากแต่ผ่านการวางแผน และเป็นพิธี ฝังรูปฝังรอย


นายสนธิ ระบุด้วยว่า หาใช่แค่การทุบพระพรหมเอราวัณ แต่มีการทุบพระพรหมที่ตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งกรณีทุบพระพรหมเอราวัณวันนั้น คนทุบที่บอกว่าเป็นคนบ้า ก็ถูกฆ่าตายอย่างปริศนาแล้วก็เงียบหายไปเลย ท่ามกลางเสียงร่ำลือกันว่า เส้นผมและดวงชะตาของ พ.ต.ท.ทักษิณ นำไปใส่ไว้ใต้ฐาน พระพรหมองค์ใหม่นั้น เพื่อให้ดวงเมือง และดวงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชงกันไปตลอด นั่นเอง แต่ในเวลานั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบโต้เสียงวิจารณ์ต่างๆ ว่า “ อันนั้นนั่นเสียสติ ”
หรือแม้แต่การโยงเหตุการณ์มีผู้ทุบทำลาย ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ และพิธีกรรมที่ วัดบางละมุง จ.ชลบุรี ที่ นายสนธิ พยายามชี้โยงให้ การทำพิธีไสยศาสตร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อย่างแทบไม่น่าเชื่อ
“ พระเจ้าตากสินทรงปลูกต้นสนใหญ่ต้นหนึ่งเพื่อเป็นหลักของชาติไว้ที่วัดบางละมุง ขณะเดียวกันได้หล่อพระศรีอารยเมตรัย เพื่อเป็นหลักธรรม ตั้งตรงกัน แต่ปรากฎว่าเมื่อปี 2544 ได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยการสร้างพระขึ้นมาใหม่เรียกว่า “ พระชินวัตรมุนี ” หน้าเหลี่ยมมาวางเอาไว้คั่นกลางระหว่าง พระศรีอารยเมตรัย กับ ต้นสน เพื่อทำลายความศักดิ์สิทธิ์หลักของชาติและหลักของศาสนา แล้วก็ส่งความศักดิ์สิทธิ์ให้ พระชินวัตรมุนี ซึ่งหน้าเหมือนคนหน้าเหลี่ยม เป็นการทำเพื่อเอาเคล็ด เพื่อให้พระศรีอารย์ฯ ส่งพลังเข้า พระชินวัตรมุนี ขณะเดียวกันได้นำ พระแก้วมรกตจำลอง ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของพระมหากษัตริย์มาวางไว้ข้างล่างให้ต่ำกว่า พระชินวัตรมุนี มีเจตนาทำเป็นเคล็ดให้เหมือนที่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ที่ด้านข้างสองข้างของพระแก้วมรกต จะ มีพระพุทธรูปปางห้ามญาติ อยู่ซ้าย และปางห้ามสมุทร อยู่ขวา โดย พระแก้วมรกตต้องวางไว้สูงสุด ซึ่งถูกวางประจำในวัดประจำพระราชวงศ์จักรี เป็นเจตนาที่เอาหลักชาติ คือต้นสน มาสกัดหลักเมือง โดยมี พระชินวัตรมุนี ซึ่งทรงพลังสูงสุดในชาติแทนพระแก้วมรกต
นายสนธิ ยังชี้ให้เห็นว่า การหล่อพระพุทธรูปชินวัตรมุนีองค์ใหญ่ขึ้นมาและวางตรงนั้น เพื่อรับพลังจากหลักชาติ และฐานของพระพุทธรูป ดังกล่าวยังหล่อเป็นรูปนักการเมืองหลายคน เพื่อเป็นหลักคำชูให้ พระชินวัตรมุนี
ทั้งๆที่เป็นเรื่องของอารมณ์ขันทางการเมืองของศิลปินผู้ก่อสร้าง แต่ นายสนธิ ก็ปลุกกลุ่มพันธมิตรฯชลบุรี ให้ไปที่วัดนี้เพื่อให้ทุบทำลาย ฐานพระรูปที่มีรูปนักการเมืองคนสำคัญ รวมทั้ง บางรูปปั้นที่สวมแว่นตา ที่ นายสนธิ เชื่อว่า เป็นคนสำคัญของประเทศ แต่ ช่างผู้ปั้น ระบุว่า คือ นาย บัญญัติ บันทัดฐาน ก็ตามที
ในหนังสือเล่มนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงการเป็น 2 ดิจิตอลขมังเวทย์ ของ ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และ นายสนธิ ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์อย่างมาก แถมที่มีปรึกษา อย่าง หมอผีเขมร นายเนวิน ชิดชอบ ในเวลานั้นด้วย ส่วน นายสนธิ มองว่า ตัวเองรู้ทันกลเกมไสยศาสตร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นตัวแทนในการต่อสู้ในสงครามไสยศาสตร์เพื่อล้างมนต์ดำที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำเอาไวเพื่อหวังที่ต้องการครองอำนาจครองประเทศไปตลอด ทั้งการแก้เคล็ดที่ พระพรหมบนตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล ที่เขาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พาหมอผีเขมรมาทำพิธีและขึ้นนั่งคร่อม จนเมื่อ กลุ่มพันธมิตร มายึดทำเนียบฯ ก็นำผ้าดำมาคลุมสี่ทิศ และนำขึ้ผึ้งและทองคำเปลวมาปิดพระเนตรเอาไว้เพื่อแก้เคล็ด
แต่ได้มีการรวบรวมความเชื่อของทหารเรือ ในตำนานพระเจ้าตากสินฯ และสัมภาษณ์ โหรดังฝ่ายทหาร ทั้ง อาจารย์ วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหร คมช. และ นายเก่งกาจ จงใจพระ อดีตโหร รสช. ที่เชื่อแย้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่พระเจ้าตากสินฯกลับชาติมาเกิด และเชื่อว่า พระองค์ท่าน ได้กลายเป็น พระสยามเทวาธิราช ที่คอยปกป้องดูแลชาติบ้านเมืองแล้ว ไม่ได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกแล้ว
รวมทั้ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. ที่ก็ยอมรับว่า สับสน ไม่มั่นใจว่าจะเชื่ออย่างไร เพราะตนเองก็ได้ยินเรื่องที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ในชาติภาพก่อน เป็นพระเจ้าตากสินฯ แต่เมื่อ อาจารย์ วารินทร์ เห็นในนิมิตว่า พล.อ.สนธิ ในชาติภพก่อนคือ ทหารเอกพระเจ้าตากสินฯ ที่ต้องมากู้ชาติในชาตินี้
“ ถ้าผมเป็นทหารเอกพระเจ้าตากสินฯ ผมก็ต้องอยู่ฝ่าย นายกฯทักษิณ แล้วผมจะอยู่ข้างไหน ผมก็ต้องกู้ชาติ ” พล.อ.สนธิ กล่าวด้วยความสับสน แต่ที่สุดเขาก็ต้องสลัดตัวเองจากเรื่องตำนานความเชื่อ แล้วปฏิวัติล้มอำนาจ พ.ต.ท.ทักษิณ คนที่เขาเชื่อว่า มีแนวคิดในการล้มล้างระบอบฯ
นอกจากนั้น หนังสือเล่มนี้ ยังระบุถึงอีกความเชื่อที่ว่า ในชาติภพหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เคยเกิดเป็นกษัตริย์พม่า ซึ่งเคยก่อกรรมกับคนไทย ในสมัยอยุธยาไว้ จนทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องไปแก้กรรมที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อครั้งที่กลับมาเมืองไทย หลังการปฏิวัติ โดยมีการโยงกับ สายสัมพันธ์ที่ดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับผู้นำทหารพม่า ในเชิงประโยชน์ทั้งการปล่อยเงินกู้ 4 พันล้าน และการทำธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมกับพม่า
รวมทั้ง เปิดแผนการช่วยฟื้นชีพ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงหลังปฏิวัติเรื่อยมา ทั้งการที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เคยประสานผ่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพื่อขอให้ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. ในเวลานั้น ทำพิธีทำบุญถวายในหลวง “ มหาสังฆทาน รวมพลังไทยเพื่อพ่อของแผ่นดิน ”
ที่หากมองผิวเผินแล้ว จะไม่มีใครหยั่งรู้หรือฉุกคิดเลยว่า เบื้องหน้าเบื้องหลังของงานบุญมหากุศลครั้งนี้ เป็นเรื่องไม่ธรรมดา และเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อนจะถึงวันเกิดของ 26 ก.ค.ของ พ.ต.ท.ทักษิณ อีกด้วย
เพราะในแง่รูปแบบของงานบุญนี้ ก็ค่อนข้างแปลก ตั้งแต่ การทำบุญตักบาตร์ พระสงฆ์ 999+9 รูป จากวัดประจำรัชกาลที่ 9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ที่จะทำพิธีกันตั้งแต่ หกโมงเช้า ถึง แปด โมงเช้าของวันที่ 20 ก.ค. 2551 และในเวลา 6 โมงเย็น จนถึง 6 โมงเช้า ของวันที่ 21 ก.ค. ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ที่คาดว่าจะมีคนไทยร่วมงานราว 1 แสนคน ที่จะกึกก้องด้วยเสียงบทสวดคาถาชินบัญชร
หรืออีกนัยหนึ่งเสมือนเป็นพิธีการทำบุญประเทศ เพราะจุดหมายคือ ทำบุญให้กับประเทศ มีปัญหาความแตกแยกสามัคคี ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และวิกฤติเศรษฐกิจ
แต่พิธีนี้ ถูกนายสนธิ โจมตีเสียก่อนจนต้องยกเลิกไป ที่ไม่มีใครคาดคิดว่า จะเกี่ยวข้องกับแผนการ อาศัยดวงชะตาบุญบารมีของ แม่ทัพนายกองในกองทัพ มาช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีหมอดูพม่า ทายทักว่า หลังเกิดพายุนาร์กีสที่ทำให้ชาวพม่าเสียชีวิตจำนวนมากและกระทบต่อความมั่นคงของเจดีย์ชเวดากอง จนต้องให้มีการทำพิธีนี้ แต่ถูกสกัดกั้นเสียก่อน จนทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่พ้นบ่วงกรรม

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คนที่ทุบทำลายพระพรหมเอราวัณ มีญาติพี่น้องยืนยันว่ามีปัญหาทางจิต การวางแผนให้คนมีปัญหาทางจิต กระทำการใดๆ ไม่น่าจะเป็นเรื่องง่าย เรื่องนี้เชื่อว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกับทักษิณเป็นต้นเหตุ

เรื่องปั้นรูปนักการเมืองไว้ในฐานพระ เป็นอารมณ์ศิลปินของช่างปั้นเมืองเพชรที่เคยเป็นข่าวมาก่อนยุคทักษิณ

ส่วนเรื่องการวางพระชินวัตรมุณีไว้สูงกว่าพระแก้วมรกต ก็น่าจะเป็นความจงใจสร้างเคล็ด

ส่วนการทำพิธีไสยอย่างอื่นเพื่อเสริมดวงให้ทักษิณได้เป็นใหญ่ก็น่าจะมีมูล โชคดีของประเทศไทยที่มีการปฏิวัติเสียก่อน