วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551

WELCOME THAKSIN




WELCOME THAKSIN
หลักฐานลบหลู่ธงชาติไทย




หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 29 เมษายน 2551 ลงตีพิมพ์ภาพการนำธงชาติไทยขนาดใหญ่เขียนชื่อ “THAKSIN” ไปติดไว้คู่กับธงสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี บนอัฒจันทร์สนามฟุตบอล ซิตีออฟแมนเชสเตอร์ สเตเดียม ประเทศอังกฤษ ระหว่างการแข่งขันของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี กับ ทีมฟูแลม เมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผู้ที่ส่งภาพดังกล่าวมาให้หนังสือพิมพ์มติชน ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี นั่งชมการแข่งขันฟุตบอลเกมดังกล่าว บนอัฒจันทร์ตรงข้ามกับธงชาติไทย
เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นให้วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม และลบหลู่ธงชาติไทย และรวมไปถึงว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่ หรือเป็นแฟนฟุตบอลชาวต่างชาติทำขึ้นมาเอง

นายกฯสมัครบอกเห็นแล้วขนลุก
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 29เม.ย. เวลา 13.50 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ(รมว.) กระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีที่ธงชาติไทยมีชื่อ “THAKSIN” ติดอยู่บนอัฒจันทร์ในสนามซิตี้ออฟแมนเชสเตอร์ สเตเดียม ที่ประเทศอังกฤษ ว่า
“เรื่องนี้ไม่ต้องถามว่า เห็นสมควรหรือไม่ เพราะไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องตอบว่าไม่สมควรทั้งนั้น และเรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นก็ต้องทักท้วง พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างแน่นอน และเขาก็ต้องแก้ตัวว่าฝรั่งมันทำ สำคัญที่สุดเมื่อมีคนเห็นก็ต้องเอาออกทันที มันเป็นไปไม่ได้เรื่องนี้ที่จะปล่อยไป”
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายกฯ สมัครว่า ในเกมพรีเมียร์ชิพ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้นั่งชมอยู่ด้วยนานถึง 2 ชั่วโมง นายสมัคร กล่าวอย่างสงสัยว่า “แล้วไม่มีใครเตือนเลยหรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ช่วงที่นั่งชมได้แหงนหน้าขึ้นไปดูหรือเปล่าว่ามีธงดังกล่าวอยู่ข้างบน ผมคิดว่าถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ เห็นเขาต้องท้วงแน่ เป็นคนไทย คงเป็นไปไม่ได้ถ้าเห็นแล้วไม่ท้วง ถ้าเป็นธงของสโมสรหรือธงอื่น ๆ จะเขียนอะไรลงไปก็ได้ แต่ธงชาติไทย เขาไม่ทำกัน เรื่องแบบนี้ผมไม่มีทางเข้าข้าง”
นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ต้องมีกระบวนการตรวจสอบ อย่างน้อยที่สุดท่านนายกฯ ทักษิณ กลับมา ท่านต้องชี้แจงว่ามันเกิดเหตุขัดข้องอย่างไรถึงเป็นเช่นนี้ และต่อไปจะเกิดเหตุเช่นนี้อีกไม่ได้ เพราะไม่ใช่เรื่องดีกับตัวท่าน แล้วท่านจะไปยืนยันว่าเป็นเรื่องดีมีชื่อของท่านอยู่ในธงได้อย่างไร แค่เห็นก็ตกใจแล้ว
“ต้องถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าทำไมจึงเป็นอย่างนั้น และผมจะถามเป็นการภายในโดยจะฝากคนไปถาม ถ้าวันศุกร์นี้รู้ก็จะชี้แจงให้ฟังว่ามันเกิดเหตุอย่างนี้ได้อย่างไร ทำไมถึงปล่อยให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้”
ผู้สื่อข่าวได้หยิบยกกฎหมายเรื่องธงชาติถามนายกฯ นายสมัคร ถึงการลงโทษตามกฎหมาย ซึ่งนายสมัคร ยอมรับว่า ใช่ แต่ปัญหาอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม รู้กันหรือไม่ว่ากฎหมายธงชาติอเมริกัน เขาระบุชัดเจนว่ารูปธงอเมริกันไปทับรูปอื่นไม่ได้ ซึ่งมันประหลาด สมัยก่อนธงอเมริกันไม่มีความหมายเลย ต่อมาอเมริกันคบกับคนทั่วโลกซึ่งเขารักธงชาติกันทั้งนั้น อเมริกัน จึงออกกฎหมายธงชาติขึ้นมาโดยอดีตประธานาธิบดีจอร์ช ดับเบิ้ลยู บุช เขารู้จากเอกอัครราชทูตอเมริกาประจำประเทศไทยว่า ธงชาติอเมริกาอยู่ใต้ธงชาติไทยไม่เป็นไร แต่ไปทับธงอื่นไม่ได้ สมัยก่อนธงอเมริกันถูกเผา ถูกปัสสาวะรดก็ไม่ว่าอะไร มีการเอาไปทำถุงเท้า กางเกงชั้นในได้ แต่ปัจจุบันห้ามหมด
ส่วนรัฐบาลมีแนวทางจัดการเรื่องนี้อย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า “เรื่องแค่เห็นก็ขนลุกแล้ว ก็ต้องจัดการแก้ไขเรื่องนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีก”
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามซักว่า ยืนยันว่าจะต้องนำตัวผู้ทำผิดมาลงโทษให้ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “มันก็เป็นฝรั่งนะซิ เขาจะมาโทษคนไทยคนไหนได้อย่างไร ก็ต้องบอกว่าฝรั่งมันทำ ฝรั่งเองก็คิดว่าไม่เป็นไร ก็จะออกมาในรูปแบบนี้แหงๆ เรื่องนี้ไม่ต้องกลัวเรื่องพรรค์นี้มันต้องไม่มีอีก แต่ที่ผมตำหนิคือคนไทยเราเองไม่รู้อัตราส่วนของธงชาติไทย โดยเฉพาะบริษัทเสื้อกีฬาต่าง ๆ มักทำสีเสื้อแดง - ขาว - น้ำเงิน เท่ากันหมด ความจริงสีน้ำเงินต้องใหญ่เป็น 2 เท่า ไม่รู้เป็นเพราะไม่สวยหรืออย่างไรเวลาผลิตเสื้อออกมาจึงให้สีเท่ากันหมด”
นายกฯ สมัคร ยังกล่าวถึงมีความพยายามหยิบเอาเรื่องสถาบันมาโจมตีทางการเมืองว่า เป็นเรื่องที่ไม่สมควร เขาไม่ทำกันหรอก และฝ่ายรัฐบาลยืนยันว่าไม่มีการนำเรื่องของสถาบันไปกล่าวหาหรือว่าใคร ฝ่ายรัฐบาลต้องรู้ดีในเรื่องเหล่านี้ แต่ฝ่ายอื่นเขาไม่ทราบ แต่เขาเห็นว่ามันไม่สมควร ส่วนที่กลุ่มเคลื่อนไหวต่าง ๆ พยายามที่จะพูดถึงเรื่องเหล่านี้นั้น เขาก็ได้ตำหนิไปแล้วว่าไม่เห็นด้วยทำอย่างนี้ไม่ถูกต้อง

กลาโหม แจง ต้องดูเจตนาต่างชาติ เชื่อไม่หมิ่นสถาบันชาติ
พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเดียวกันนี้ ว่า เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับกระทรวงกลาโหม ต้องไปถามฝ่ายการเมือง แต่ข้อเท็จจริงกองเชียร์ชาวต่างชาติมักจะนำเอาชื่อเจ้าของทีม หรือ เอาชื่อผู้เล่นที่กองเชียร์ชื่นชอบไปใส่ไว้ ทั้งนี้ เราจะต้องดูข้อเท็จจริงว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้ ถ้าเป็นคนไทยทำก็คงไม่เหมาะ ดังนั้นจะต้องดูเจตนาเป็นหลัก
“ตอนนี้บ้านเมืองก็เกิดความวุ่นวายมากพอแล้ว บางทีเรื่องไม่เป็นเรื่องก็มีการนำขึ้นมาโยงให้เกิดปัญหากัน ดังนั้น เรื่องนี้จะต้องไปถามเจ้าตัวว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไรเรื่องจะได้จบ” พล.ท.พีระพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า กองทัพจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า จริงๆ แล้ว เรื่องนี้จะต้องพิจารณาให้รอบด้าน ซึ่งทหารเองก็สนับสนุนประชาธิปไตยอยู่แล้ว จะต้องมองภาพกว้าง ๆ หากมองชั้นเดียวจะเกิดความขัดแย้งกัน ต้องมองเรื่องให้ลึก ๆ และต้องทำความเข้าใจเรื่องบางเรื่อง เพราะถ้าดูก็ไม่รู้ว่าจะไปใส่ทำไม มันไม่มีเหตุ
“ผมฟังจากข่าว ก็เห็นว่าการเชียร์ของคนต่างชาติที่มาร่วมชมการแข่งขันก็จะให้เกียรติ ด้วยการเอาธงชาติของประเทศนั้น ๆ มาโบกสะบัด บางคนจะเอาชื่อของผู้เล่น หรือเจ้าของทีมที่เป็นที่ชอบมาใส่ไว้เพื่อเป็นเกียรติ คนต่างชาติเขามีวิธีคิดต่างกัน เราก็ต้องเข้าใจ ก็ต้องอธิบายให้เขา เพราะเป็นวัฒนธรรมของเขา หลายอย่างที่ต่างชาติไม่เข้าใจบ้านเรา” พล.ท.พีระพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ทหารมองอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีใครพูดอะไร เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น จะต้องดูข้อเท็จจริง ทั้งนี้ดูแล้วเห็นว่าไม่ได้เป็นการเหยียบย่ำอะไร สมมติว่าคนเดินขบวนเอาธงชาติไปเหยียบย่ำน่าคิด แต่นี่เขาเอาธงชาติเชิดชูยกไว้ แต่วิธีของเขาไม่เข้าใจ เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำจะนำมาเป็นประเด็นการเมือง ทั้งนี้ เขาไม่อยากเดาไปล่วงหน้า เพราะจะทำให้ความสมานฉันท์ปรองดองจะมีปัญหา จะต้องมองให้เกิดความเข้าใจ
เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าไม่ได้เป็นการหมิ่นสถาบันชาติใช่หรือไม่ พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ได้หมิ่น แต่คงจะต้องไปถามรัฐบาลว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร

“นพดล”โยนแฟนคลับแมนฯซิตีทำกันเอง
นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ ว่า ยังไม่มีข้อมูลแต่จะติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงและจะลองติดต่อทางสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี ดูว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร เพื่อจะไม่ให้กระทบความรู้สึกของคนไทย แต่โดยหลักจะไม่มีชื่อบุคคลทั่วไปอยู่บนธงไตรรงค์ อย่างไรก็ตาม หากมีสิ่งที่ต้องดำเนินการกระทรวงการต่างประเทศ ก็จะดูแล ส่วนการขอความร่วมมือไปยังสโมสรไม่ให้เกิดเหตุการณ์อีกนั้น ถ้าเป็นอะไรที่ไม่เหมาะสมสโมสรคงให้ความร่วมมือแก้ไข
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีชื่ออยู่บนธงชาติหรือไม่ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า คงไม่มีผลอะไร เพราะอาจจะเป็นการกระทำของบุคคล สมาชิกหรือแฟนคลับของสโมสร ซึ่งคงต้องไปดูรายละเอียด แต่คิดว่าคงไม่ใช่เป็นคำสั่งของสโมสรที่ให้ดำเนินการเช่นนั้น
เมื่อถามย้ำว่า หมายความว่าเรื่องที่เกิดขึ้นพ.ต.ท.ทักษิณไม่รับรู้ด้วยใช่หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า คิดว่าไม่น่าเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ จะตรวจสอบให้ แม้ไม่ได้เป็นโฆษกของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่เมื่อเป็นเรื่องสาธารณะและเป็นเรื่องเกี่ยวกับประเทศก็จะช่วยดูให้ คิดว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะหากเป็นเรื่องไม่เหมาะสมเราก็แก้ไขให้ถูกต้อง
“ผมจะไปดูกฎหมาย และดูความเหมาะสม และอะไรที่มันกระทบความรู้สึกของคนไทย เราจะติดต่อและแจ้งให้สโมสรได้รับทราบ ไม่มีปัญหาอะไร เรื่องนี้แก้ไขได้ เพราะอาจจะเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของสมาชิกสโมสรบางคน”นายนพดล กล่าว

“อริสมันต์”อ้างแม้วรู้แล้วรู้สึกไม่สบายใจ
นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง เลขานุการ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทราบแล้วและไม่สบายใจ ซึ่งท่านคาดว่าน่าจะเป็นแฟนคลับชาวต่างชาติ ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังย้ำให้เจ้าหน้าที่สอดส่องดูแลระวังเพราะเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน ซึ่งเรื่องธงชาตินั้นบางประเทศสามารถนำมาตกแต่งเป็นเสื้อผ้าได้
อย่างไรก็ตาม วันศุกร์ที่ 2 พ.ค.นี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางมาเปิดมูลนิธิบ้านเลขที่ 111 ที่โรงแรมเซนทารา ลาดพร้าว แน่นอน

“ศันสนีย์” วอนรอสอบอย่าด่วนสรุป
น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่าธงดังกล่าว ไม่ได้เป็นธงของสนามแน่นอน แต่อยู่ในส่วนของกองเชียร์ที่เข้ามาชมการแข่งขันฟุตบอล และเข้าใจว่าเป็นผู้ชมที่เป็นชาวต่างชาติด้วย
ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ จะออกแถลงการณ์ส่วนตัวเพื่อชี้แจงในประเด็นนี้หรือไม่ ยังไม่ทราบ ขอร้องประชาชนอย่างเพิ่งด่วนสรุปตามคำวิจารณ์ แต่ควรรอให้มีการสอบสวนด้วยว่าความจริงเกิดอะไรขึ้น ซึ่งการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกแถลงการณ์ผ่าน นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว ที่ขอร้องให้คนที่สนับสนุน อย่าใช้ชื่อท่านมาสร้างความขัดแย้ง ซึ่งเรื่องนี้ก็แสดงเจตนาที่ชัดเจนของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างดีว่าต้องการสร้างความสมานฉันท์



หลักฐานอัปยศลบหลู่ธงชาติโผล่อีก
ต่อมาวันที่ 30 เม.ย. หนังสือพิมพ์ข่าวสด ซึ่งอยู่ในเครือเดียวกันกับมติชน ได้นำภาพธงชาติที่ไม่เหมาะสมอีกภาพ และน่าจะสร้างความขนหัวลุกให้แก่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหนักกว่าเดิม โดยภาพดังกล่าวเป็นรูปคนไทย และฝรั่งเดินถือธงขนาดใหญ่คนละข้าง และมีฝรั่ง และคนไทยอีกจำนวนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลัง
ทั้งนี้ บนแถบสีขาวของธงชาติไทย เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า “WELCOME THAKSIN” และระบุอย่างชัดเจนว่าภาพดังกล่าวปรากฏอยู่ในนิตยสารของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าของและประธานสโมสรนั่นเอง
ผลจากการตีพิมพ์ภาพข่าวของหนังสือพิมพ์ข่าวสด ทำให้ฝ่ายการเมืองโดบเฉพาะซีกพรรคพลังประชาชน ต่างพากันปิดปากเงียบ
ทั้งนี้ คงมีเพียงนายนพดล ปัทมะ เท่านั้นที่ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่าเป็นฝีมือของแฟนบอล

“วีระ”เล็งแจ้งความทักษิณ
นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ยืนยันว่าจะแจ้งความดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี อย่างแน่นอน เพราะจากภาพดังกล่าวทำให้เชื่อได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องอยู่เบื้องหลัง เพราะตีพิมพ์ในนิตยสารของสโมสรที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าของ จะอ้างว่าฝรั่งเป็นคนทำไม่ได้ เพราะถ้าฝรั่งเป็นคนทำจะเขียนชื่อบุคคลด้วยนามสกุล หรือ “ซิเนตรา” ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกให้แฟนสโมสรเรียกเขาด้วยชื่อนี้ และยืนยันว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายตามความผิดตามพระราชบัญญัติธง พ.ศ.2522 และกฎหมายอาญา ซึ่งระบุชัดว่าความผิดในกรณีนี้จะต้องนำตัวมาลงโทษในประเทศไทย เท่านั้น ไม่ว่าเหตุเกิดที่ไหน
“พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ และเห็นได้ชัดว่ามีการติดตั้งธงชาติไว้คู่กับธงสโมสรบนอัฒจันทร์ของสโมสรอย่างตั้งใจ ไม่ใช่เกิดจากผู้ชมนำธงชาติไปโบกสะบัดหรือติดตั้ง” นายวีระ กล่าว

เปิดพระราชบัญญัติธงชาติ พ.ศ.2522
มาตรา 53 บัญญัติว่า ผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อธง ตามมาตรา 5 ดังต่อไปนี้
(1) ประดิษฐ์รูปตัวอักษร ตัวเลข หรือเครื่องหมายอื่นใดในผืนธงรูปจำลองของธง หรือในแถบสีธง นอกจากที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่น
(2) ใช้ ชัก หรือแสดงธง รูปจำลองของธง หรือแถบสีธงอันมีลักษณะตาม (1)
(3) ใช้ ชัก หรือแสดงธง รูปจำลองของธง หรือแถบสีธงไว้ ณ ที่หรือโดยวิธีอันไม่สมควร
(4) ประดิษฐ์ธง รูปจำลองของธง หรือแถบสีธงไว้ ณ ที่หรือสิ่งใด ๆ โดยไม่สมควร
(5) แสดงหรือใช้สิ่งใด ๆ ที่มีรูปธง รูปจำลองของธง หรือมีแถบสีธงอันมีลักษณะตาม (4) โดยไม่สมควร
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับมาตรา 5 บัญญัติว่า ธงที่มีความหมายถึงประเทศไทยและชาติไทย ได้แก่
(1) ธงชาติ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 6 ส่วน ยาว 9 ส่วน ด้านกว้างแบ่งเป็น 5 แถบตลอดความยาวของผืนธง ตรงกลางเป็นแถบสีน้ำเงินแก่กว้าง 2 ส่วน ต่อจากแถบสีน้ำเงินแก่ออกไปทั้งสองข้างเป็นแถบสีขาวกว้างข้างละ 1 ส่วน ต่อจากแถบสีขาวออกไปทั้งสองข้างเป็นแถบสีแดงกว้างข้างละ 1 ส่วน ธงชาตินี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ธงไตรรงค์