วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2552

ทนายเตรียมหลักทรัพย์ ยื่นประกัน 3แกนนำนปช.

หมวดข่าว : การเมือง

โดยทีมข่าว : ศาลยุติธรรม

พนักงานสอบสวนคุม 3 แกนนำนปช.ฝากขังผลัดแรก ท่ามกลางกำลังตำรวจ-ทหาร คุมเข้มรอบศาล ขณะที่ ชาวบ้านบางส่วนไม่กล้าใส่เสื้อแดง ทยอยมาให้กำลังใจเป็นระยะ ด้าน"การุณ-มานิตย์-ทนุศักดิ์"เตรียมใช้ตำแหน่งส.ส.ประกันตัว "กอบแก้ว" ย้ำสู้บนดินไม่ได้เดินใต้ดินอาจแรงขึ้น โบ้ยสื่อ ถูกรัฐสั่งบิดเบือนข้อมูล
ศาลอาญารัชดา --- เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ 16 เมษายน พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมตัว นายวีระ มุสิกพงษ์,นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ และน.พ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. มาขออำนาจฝากขังที่ศาลอาญารัชดา เป็นผลัดแรก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พหลโยธิน กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) และ ตำรวจปราบปรามจราจร พร้อมโล่ จำนวน 3 กองร้อย กระจายกำลังดูแลความปลอดภัยทั้งภายในและโดยรอบศาลอาญารัชดา นอกจากนี้ยังมีกำลังของเจ้าหน้าที่ทหารประมาณ 3 กองร้อย พร้อมโล่ และกระบอง ตรึงกำลังดูแลความปลอดภัยอยู่ด้านหลังศาลอาญา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อแกนนำทั้ง 3 คน มาถึงศาลอาญารัชดา พนักงานสอบสวนได้นำทั้งหมดขึ้นไปในห้องพิจารณาทันที เพื่อรอคณะผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังค์ พิจารณาว่าจะมีการให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน หรือไม่ ในส่วนของกลุ่มเสื้อแดง ที่เดินทางมาให้กำลังใจผู้ต้องหานั้น ได้มีการทยอยเดินทางมาเป็นระยะๆแต่ไม่ค่อยมีบุคคลใดสวมใส่เสื้อแดง ซึ่งเจ้าหน้าที่ศาลได้มีการอนุญาต ให้เข้าไปภายในอาคารของศาล เป็นบางส่วน พร้อมทั้งกำชับว่าห้ามส่งเสียงดังหรือโห่ร้องแต่อย่างใด
สำหรับการยื่นประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนนั้น ได้มีทนายความเตรียมหลักทรัพย์ทั้งเงินสด และสมุดบัญชีเงินฝาก จำนวน 500,000 บาท มาเพื่อใช้ในการประกันตัว นอกจากนี้ยังมี นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคเพื่อไทย และ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย เดินทางมาศาลอาญา เพื่อที่จะใช้ตำแหน่งส.ส. ประกันตัวทั้ง 3 คนเช่นกัน
นายกอบแก้ว พิกุลทอง หนึ่งในแกนนำ นปช. ที่เดินทางให้กำลังใจพร้อมทั้งกล่าวว่า ตนทราบว่าขณะนี้ตำรวจพิจารณาหมายจับแกนนำนปช. อีกประมาณ 40 กว่าคน แต่แกนนำหลายคนไม่ได้หายไหนเพียงรู้สึกว่าไม่มีความมั่นใจแต่ก็ยังแสดงตัวว่ายังอยู่ไม่หายไปไหน ส่วนนายจักรภพ เพ็ญแข ที่ถูกออกหมายจับ ตอนนี้ไม่ได้มีการติดต่อกันเลย แต่คิดว่าคนที่ถูกออกหมายจับเขาคงไม่แน่ใจเรื่องความปลอดภัย แต่ไมได้กลัวถูกดำเนินคดี ซึ่งคิดว่าส่วนใหญี่อยู่ในไทย แต่อยู่ตรงไหนตนไม่ทราบ หรืออาจจะอยู่ใกล้บ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ได้
นายกอบแก้ว กล่าวอีกว่า ตอนนี้ที่เป็นห่วงคือกลัวว่าแกนนำที่ถูกจับไม่ได้รับการประกันตัว แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของศาล ตนอยากจะบอกว่าคนเสื้อแดง เป็นเพียงพลเมืองชั้นสอง ส่วนกลุ่มเสื้อเหลืองปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เวลาผ่านมา 4 เดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินคดีเลย
"ส่วนการเคลื่อนไหวต่อไปนั้นตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไรอีก เพราะตอนนี้บ้านเมืองเสียหายมาก อยากให้กลับเข้าสู่ความสงบก่อน แล้วมาคิดหาทางออก รัฐบาลต้องตระหนักและแก้ปัญหาที่สาเหตุไม่เช่นนั้นก็จะแก้ปัญหาใดไม่ได้ ที่ผ่านมาเสื้อแดงต่อสู้อย่างเปิดเผย เมื่อสู้ไม่ได้ก็ต้องสู้ใต้ดินแล้วจะควบคุมได้ลำบาก ถึงแม้แกนนำจะถูกจับ คนอื่นก็พร้อมลุกขึ้นสู้จึงอยากเรียกร้องว่าให้ทุกฝ่ายออกมาพูดความจริง โดยเฉพาะกรณีที่เกิดขึ้นไม่กี่วันที่ผ่านมา ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระบุว่าการเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้น นั้นเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก ผมไม่อยากให้เกิดเหตุร้ายใด เพราะสุดท้ายชาติเสียหายถึงจุดนี้อยากให้ทุกฝ่ายทั้งนอก และในสภา มาร่วมกันหาทางออกให้กับปัญหา"นายกอบแก้ว กล่าว
นายกอบแก้ว กล่าวอีกว่า ต่อจากนี้ไปจะมีการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นออกมาตีแผ่ อย่างที่มีข่าวลือว่ามีการเก็บศพผู้เสียชีวิตไว้ที่จ.สระบุรี และมีการนำไปเผาที่วัดในกทม. แต่ยังไม่มีหลักฐาน หากใครมีภาพถ่ายหรือหลักฐานก็นำออกมาเผยแพร่ หรือดำเนินการในสภาเป็เรื่องดีเช่นกัน สังคมอยากรู้ ส่วนสื่อมวลชนยอมรับว่า 3-4 วันที่ผ่านสื่อถูกสั่งให้บิดเบือนข่าวสารใครพูดอะไรก็ได้ ไม่สามารถปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ ที่ตนไม่ถูกดำเนินคดีนั้นเพราะช่วงวันที่ 9-15 เมษายน ตนเดินทางไปญี่ปุ่น
"ทางออกของความสงบคือต้องกลับมาร่วมกันทุกฝ่ายหันหน้าคุยกันเพื่อกำหนดเป็นกติกาในการอยู่ร่วมกันตรงนี้ขึ้นอยู่กับข้อเรียกร้องของแต่ละฝ่ายต้องดูสังคมส่วนใหญ่ของประเทศด้วยบอกไม่ได้ว่าข้อเรียกร้องจุดสุดท้ายมีการคุยจริงเป็นอย่างไร ตอนนี้คนจำนวนมากรู้สึกไม่มีความสุข ทนไม่ไหว พร้อมที่จะก่อเหตุอะไรก็ได้แม้ไม่แกนนำ

ท้าหัวขวดแน่จริงอย่าใช้อำสิทธิ์ส.ส.

หมวดข่าว : การเมือง

โดย : ทีมข่าวรัฐสภา

ปชป เย้ย จตุพร หัวขวด แน่จริงอย่าใช้เอกสิทธิ์ส.ส. เชื่อในที่สุดก็ต้องถูกตร.ลากตัวมาดำเนินคดีแน่
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย หนึ่งในแกนนำนปช. จะขอให้เอกสิทธิ์ความเป็นส.ส. ว่า แสดงให้เห็นถึงความหน้าด้านของนายจตุพร อย่างเห็นได้ชัด เพราะเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญให้เอกสิทธิ์ส.ส. เพื่อใช้ในการรับใช้ประชาชน ไม่ใช่ออกไปรับใช้ผู้ต้องหาหลบหนีคดีอาญา แล้วยังคิดจะทำลายประเทศชาติบ้านเมือง เข้าข่ายกบฏแผ่นดิน เหมือนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำอยู่

"พอโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมก็อ้างเอกสิทธิ์เพื่อหวังเอาตัวรอด"

ส.ส.ตรัง กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้นายจตุพร เคยกล่าวหานายสมเกียรติ์ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เก่งจริงอย่าใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง แต่พอถึงคราวตัวเองก็วิ่งหลบอยู่หลังเอกสิทธิ์ ทั้งที่พฤติกรรมที่นายจตุพร ที่กระทำนั้นคนละอย่างกับนายสมเกียรติ์ อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าที่สุดแล้ว สภาก็คงจะให้นายจตุพร ได้ใช้เอกสิทธิ์ตามประเพณีปฏิบัติ แต่ก็คงหนีได้ไม่ได้นานเพราะใกล้จะปิดสมัยประชุมแล้ว ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ต้องนำตัวนายจตุพร ไปดำเนินคดีตามกระบวนการของกฎหมายต่อ