วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2551

ตัดสินจันทร์นี้'รังสรรค์'จ้างวานฆ่า'ประมาณ'



ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดอ่านคำพิพากษาคดี ลอบสังหาร "ประมาณ ชันซื่อ"จันทร์นี้ (29 ก.ย.) โดยมี "รังสรรค์ ต่อสุวรรณ" สถาปนิกชื่อดัง กับพวกเป็นจำเลย


หลังจากสู้คดีกันมานาน 15 ปี วันที่ 29 ก.ย. นี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ได้นัดฟังคำพิพากษาคดีนายสมพร หรือหมา เดชานุภาพ นายเณร มหาวิไล นายอภิชิต อังศุธรางกูร หรือเล็ก สตูล และนายรังสรรค์ ต่อสุวรรณ นักธุรกิจ และสถาปนิกชื่อดัง ตกเป็นจำเลย ลอบสังหาร นายประมาณ ชันซื่อ ประธานศาลฎีกา (ขณะนั้น)


คำฟ้องโจทก์สรุปความว่า ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2535 - 25 พ.ค. 2536 ติดต่อ จำเลยที่ 4ได้บังอาจเป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนโดยใช้ จ้าง วาน ยุยงส่งเสริมให้นายอภิชิต จำเลยที่ 3 จัดหาบุคคลไปฆ่านายประมาณ ชันซื่อ ให้ถึงแก่ความตาย จากนั้นนายอภิชิต เป็นผู้ใช้ให้นาย ให้จัดหาบุคคลไปฆ่านายประมาณ ซึ่งนายบรรเจิด ตอบตกลงตามที่นายอภิชิตจ้างวาน จึงติดต่อให้นายสมพร และนาย จัดหาบุคคลซึ่งได้นาประทุม สุดมณี และนายบำรุง ชัยเมือง ไปฆ่านายประมาณ แต่ภายหลังทั้งสองกลับใจไม่ยอมกระทำความผิด นาย จึงไม่ถูกฆ่าตาย


คดีนี้เมื่อปี 2536 เป็นข่าวครึกโครมขณะเกิดเหตุนายประมาณ เป็นประธานศาลฎีกา ส่วนนายรังสรรค์ ก็เป็นบุคคลมีชื่อเสียง และเป็นสถาปนิกชื่อดังมีภรรยาเป็นผู้พิพากษา โดยฝ่ายโจทก์มีนายตำรวจหลายนาย อาทิ พล.ต.ท.โสภณ สวิคามิน พล.ต.ท.ธนู หอมหวน พ.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย (ขณะนั้น) พ.ต.ต.ทวี สอดส่อง (ขณะนั้น


หลังเกษียณอายุราชการนายประมาณ ได้มาเป็นที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการ ให้กับพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี


นายประมาณ ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อต้นเดือน ก.พ.2550


'เรืองไกร'ยื่นกกต.ฟัน'สมชาย'ถือหุ้นขัดคุณสมบัติส.ส.-นายกฯ




ส.วเรืองไกร เปิดเอกสารการถือหุ้นสัมปทานรัฐของ 'สมชาย วงศ์สวัสดิ์' ส่งกกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดคุณสมบัติ ขัดรธน.ต้องพ้นจากส.ส. และนายกฯ พ่วงลูกสาว ส.ส.เชียงใหม่ ที่ไปมีหุ้นสัมปทาน ต้องพ้นจากส.ส.ด้วย


นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา เปิดเผย วันจันทร์ที่ 29 ก.ย.นี้ เวลา 09.30 นจะยื่นให้ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต ตรวจสอบนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่มีเงินลงทุนในบริษัท ซีเอส ล็อกอินโฟ จำกัด (มหาชน) หรือ CS Loxinfo เป็นจำนวน 100,000 หุ้น และได้เงินปันผลจากบริษัท ซี 0,000 ซึ่ง ดังกล่าวให้บริการอินเตอร์เน็ต และบริการรับ-ส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมเพื่อการสื่อสารทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยทำสัญญากับบริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)


พฤติกรรมนี้ทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นส.ส. เนื่องจากขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 ประกอบ มาตรา 265และมาตรา 106(6) อันเข้าลักษณะเป็นเหตุให้ความเป็นนายกฯ สิ้นสุดลงเพราะขาดคุณสมบัติการเป็นส.ส.ตามมาตรา 171 วรรคสองแล้ว ประกอบกับขาดคุณสมบัติตามมาตรา 48


รัฐธรรมนูญ มาตรา 48 ห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะเป็นเจ้าของกิจการหรือถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรือโทรคมนาคม และนายสมชาย อาจขาดคุณสมบัติจากการเป็นส.ส. ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. 2551 เพราะเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม


ประกอบกับมาตรา 265 วรรคสาม ให้นำความในมาตรา 265 (2) (3) และ (4) มาใช้กับคู่สมรส และบุตรของส.ส. คือ .ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน บุตรสาว ได้ยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2551 ว่ามีเงินลงทุนในบมจ.เอ็ม ลิ้งค์ เอ 70,000,000 หุ้น มูลค่า 128,100,000 บาท ซึ่งบริษัทดังกล่าว ก็เข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐวิสาหกิจคือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)

“ อภิรักษ์ ” ส่อเจอใบเหลือง-ปชป.โวยโนวิชามาร



คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) และ กกต.กลาง ได้สอบสวนกรณีป้ายประชาสัมพันธ์ของ กทม.มีชื่อนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 5 ติดอยู่ เป็นการโฆษณาหาเสียงแฝง ชี้ "อภิรักษ์" มีสิทธิเจอใบเหลือง ด้าน.โวย วิชามารกลั่นแกล้งช่วงโค้งสุดท้าย


หลังมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบเรื่องป้ายโครงการกทม. และป้ายหาเสียงผู้ว่ากทม. ในส่วนของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นั้น นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม.ได้มอบหมายให้นายรัฐพล มีธนาถาวร รองปลัด กทมเก็บป้ายดังแล้ว ขณะเดียวกันนายรัฐพล ได้สั่งให้กองประชาสัมพันธ์ และสำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) ทำหนังสือชี้แจงเรื่องดังกล่าว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการชี้แจงใด ๆ จากหน่วยงานทั้งสอง


ดังนั้น จึงมีกระแสข่าวว่า จะมีคำสั่งโยกย้าย ผอ.กองประชาสัมพันธ์ ไปเป็นผู้ตรวจราชการ ขณะเดียวกันหาก กกต.สอบสวนแล้วพบว่าข้าราชการไม่เก็บป้ายเพราะเอื้อประโยชน์ให้กับนายอภิรักษ์ อาจมีความผิดตามมาตรา 60 กรณีข้าราชการผู้ใดวางตัวไม่เป็นกลางใช้ตำแหน่งหน้าที่กระทำการใดๆ อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี
นอกจกากนี้ กรณีที่มีรูปข้าราชการ กทม.ไปปรากฏในป้ายหาเสียงของนายอภิรักษ์ 3 รูป ได้แก่ รูปขี่จักรยาน รูปนั่งเรือ และรูปเดินบนสะพานตรวจน้ำท่วม ซึ่งข้าราชการยืนยันว่าไม่ได้ยินยอมให้นำรูปไปใช้ในการหาเสียง แม้ทีมงานนายอภิรักษ์ จะเก็บป้ายบางส่วนออกไปแล้ว แต่เมื่อมีผู้ร้องมา กกต.ก็ต้องมาสอบถามข้อมูลจาก กทม. ซึ่งเรื่องนี้หากสืบไปถึงต้นตอของภาพทั้งหมดจะพบว่าเป็นรูปจากกองประชาสัมพันธ์ ซึ่งก็เข้าข่ายใช้สมบัติของราชการไปใช้หาเสียง อาจเข้าข่ายทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่าทั้งสองกรณีนี้ กกต.อาจพิจารณาให้ใบเหลืองนายอภิรักษ์ ทำให้ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่อีกรอบ ซึ่งทำให้นายอภิรักษ์เองต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งเป็นเงิน 158 ล้านบาท


นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.พรรคปชป.บอกว่า โค้งสุดท้ายมีการใช้วิชามารโจมตี ขณะนี้กำลังตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีคนที่เกี่ยวข้อง