วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ป.ป.ช. เลื่อนชี้มูลคดีรถดับเพลิง ต้น พ.ย."อภิรักษ์"ติดโผ


ป.ป.ช.ประชุมกว่า 7 ชั่วโมง พิจารณาสำนวนคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง แต่ยังไม่สามารถชี้มูลได้ เลื่อนไปเป็นต้นเดือน พ.ย.นี้ เผยมีชื่อ"สมัคร-อภิรักษ์" ติดโผ
ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาสำนวนการทุจริตโครงการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกทม. มูลค่า 6,200 ล้านบาท ตามที่คตส.ได้ส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช.พิจารณา โดยที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ใช้เวลาการพิจารณากว่า 7 ชั่วโมง
ภายหลังการประชุมนายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่วันนี้ ยังไม่สามารถชี้มูลความผิดได้ เนื่องจากรายละเอียดตามสำนวนที่คณะอนุกรรมการไต่สวนฯเสนอมานั้น มีเป็นจำนวนมาก ทำให้ที่ประชุมยังไม่สามารถลงมติได้ จึงมีมติให้นำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาอีกครั้งในช่วงต้นเดือน พ.ย. นี้ และคาดว่าจะสามารถชี้มูลความผิดได้ โดยในวันนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.แต่ละคนได้นำสรุปสำนวนการไต่สวนกลับไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อจะได้มาลงมติชี้มูลอีกครั้งในช่วงต้นเดือน พ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสำนวนคดีทุจริตการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงนั้น ในชั้นคณะอนุกรรมการไต่สวนฯที่มีนายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการนั้น ได้สรุปสำนวนความผิดเบื้องต้นว่า มีผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 10 กว่าคน ซึ่งมากกว่าสำนวนคดีที่ คตส.สรุปมาว่า มีจำนวนผู้กระทำผิดแค่ 5 คน โดยรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาที่คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ สรุปเบื้องต้นว่ามีความผิด อาทิ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้ว่าราชการกทม. นายโภคิน พลกุล อดีตรมว.มหาดไทย นายประชา มาลีนนท์ อดีตรมช.มหาดไทย นอกจากนี้ยังมีชื่อ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการ กทม.ร่วมอยู่ด้วย หลังจากที่นายอภิรักษ์ไม่มีรายชื่อเป็นผู้ถูกกล่าวหาในชั้นการไต่สวนของคตส.

กองทัพพร้อมออกช่วย ตร.หากคนไทยตีกัน



กองทัพพร้อมออกช่วย ตร.ทันที หากเกิดเหตุรุนแรง ด้าน
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจประกาศยึดทำเนียบคืนในวันที่ 25 ต.ค.ว่า กองทัพบกเตรียมกองร้อยรักษาความสงบไว้ หากมีการประสานขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้ช่วยออกมาดูแลความสงบในพื้นที่ โดยกองทัพบก มีการเตรียมกำลังจากกองทัพภาคที่ 1 กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (นปอ.) รวมถึงกองทัพเรือและกองทัพอากาศ ที่เตรียมพร้อมอยู่ในกรมกอง และสามารถออกปฎิบัติงานได้ทันที หากมีการร้องขอ เนื่องจาก ผบ.ทบ.ได้ให้นโยบายกองทัพว่า ให้เข้าถึงพื้นที่โดยเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะ


อย่างไรก็ตาม ทหารจะไม่ออกมาปฎิบัติการ หากไม่มีการร้องขอจากตำรวจ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ และหากทหารออกมาโดยไม่ประสานงานกับตำรวจจะเกิดการสูญเสียขึ้นได้ ทั้งนี้กองทัพยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และหวังว่า สถานการณ์วันที่ 25 ต.ค.จะไม่มีเหตุการณ์รุนแรง

เปิดชื่อ 64 ส.ว. กลุ่ม 24 ตุลา 51

หลังการปิดประชุมวุฒิสภา ส.ว.ทั้งสองฝ่ายได้พากันต่อคิวแถลงข่าวตอบโต้กันและกัน โดยรายชื่อ 64 ส.ว. ปรากฏว่ามีชื่อของนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยประกาศว่าจะล่าชื่อส.ว.ที่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับนายประสพสุข และกลุ่ม 40 ส.ว.

สำหรับรายชื่อกลุ่ม 24 ตุลา 64 คน ประกอบด้วย
นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์
นายสุโข วุฑฒิโชติ ส.ว.สมุทรปราการ
พล.ต.กลชัย สุวรรณบูรณ์ ส.ว.ชุมพร
นางกอบกุล พันธุ์เจริญวรกุล ส.ว.สรรหา
พล.ท.สุจินดา สุทธิพงศ์ ส.ว.สรรหา
พล.ต.ท.พิชัย สุนทรสัจบูลย์ ส.ส.อุดรธานี
นายมงคล ศรีกำแหง ส.ว.จันทบุรี
นายวรวุฒิ โรจนพานิช ส.ว.สรรหา
พ.ต.อ.พายัพ ทองชื่น ส.ว.สรรหา
พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ ส.ว.สุราษฎร์ธานี
นายสุรพงษ์ ตันธนศรีกุล ส.ว.กาญจนบุรี
นางจิราวรรณ จงสุทธนามณี วัฒนศิริธร ส.ว.เชียงราย
นายจตุรงค์ ธีระกนก ส.ว.ร้อยเอ็ด
นายสุพจน์ เลียดประถม ส.ว.ตราด
นายประเสริฐ ประคูณศึกษาพันธุ์ ส.ว.ขอนแก่น
นายจำนงค์ สวมประคำ ส.ว.สรรหา
นายประดิษฐ์ ตันวัฒนะพงษ์ ส.ว.สกลนคร
นายธวัชชัย บุญมา ส.ว.นครนายก
นายพรชัย สุนทรพันธุ์ ส.ว.สรรหา
นายถนอม ส่งเสริม ส.ว.อุบลราชธานี
นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี
นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว.ราชบุรี
นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี
นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี
นายวิทยา อินาลา ส.ว.นครพนม
นายโสภณ ศรีมาเหล็ก ส.ว.น่าน
นายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี
พล.ร.อ.ณรงค์ ยุทธวงศ์ ส.ว.สรรหา
นายทวีศักดิ์ คิดบรรจง ส.ว.บุรีรัมย์
นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร
นายพิเชต สุนทรพิพิธ ส.ว.สรรหา
พล.อ.อ.อาคม กาญจนหิรัญส.ว.สรรหา
นายสุพจน์ โพธิ์ทองคำ ส.ว.สรรหา
นายจรัล จึงยิ่งเรืองรุ่ง ส.ว.สระบุรี
นายสมชาติ พรรณพัฒน์ ส.ว.นครปฐม
พล.ต.ต.องอาจ สุวรรณสิงห์ ส.ว.เลย
นายพิชานพินิจ กุลละวณิชย์ ส.ว.สรรหา
นายสงคราม ชื่นภิบาล ส.ว.สรรหา
นายภิญโญ สายนุ้ย ส.ว.กระบี่
นายรักพงษ์ ณ อุบล ส.ว.หนองบัวลำภู
นายบวรศักดิ์ คณาเสน ส.ว.อำนาจเจริญ
นายประวัติ ทองสมบูรณ์ ส.ว.มหาสารคาม
พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ส.ว.สรรหา
นางรสสุคนธ์ ภูริเดช ส.ว.สรรหา
พ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ ส.ว.มุกดาหาร
นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ
นางจิตร์ธนา ยิ่งทวีลาภา ส.ว.ชัยนาท
นายไพบูลย์ ซำศิริพงษ์ ส.ว.ปทุมธานี
นายพีระ มานะทัศน์ ส.ว.ลำปาง
พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ ส.ว.อ่างทอง
นายศุภวัฒน์ เทียนถาวร ส.ว.สิงห์บุรี
นายนิคม ไวยรัชพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทรา
นายสิทธิศักดิ์ ยนต์ตระกูล ส.ว.กาฬสินธุ์

นายสุเมธ ศรีพงษ์ ส.ว.นครราชสีมา
นายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร ส.ว.เชียงใหม่
นายสมศักดิ์ บุญเปลื้อง ส.ว.ลำพูน
พล.ต.ต.ขจร สัยวัตร์ ส.ว.หนองคาย
นายโชติรัช ชวนิชย์ ส.ว.สรรหา
นายชรินทร์ หาญสืบสาย ส.ว.ตาก
นายศิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ส.ว.นครศรีธรรมราช
พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา
นางสมพร จูมั่น ส.ว.เพชรบูรณ์
นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร
นายสุวิศว์ เมฆเสรีกุล ส.ว.

ประเวศค้านสล้างปิดทำเนียบหวั่นนองเลือด




ราษฎรอาวุโส "ประเวศ วะสี" ไม่เห็นด้วยกับแนวคิด "สล้าง" ขู่ปิดล้อมกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล หวั่นเกิดการนองเลือด ชี้ทะเลาะกันได้แต่อย่าให้เกิดการนองเลือด แนะทุกคนกลับตัวหันมาช่วยกันพัฒนาชาติ



ศ.น.พ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ให้สัมภาษณ์ภายหลังการปาฐกถาพิเศษ "ท้องถิ่นภิวัฒน์ในกระแสโลภาภิวัฒน์" ที่โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น วันนี้ (24 ต.ค.) ถึงกรณีที่ พล.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ระบุว่าจะระดมพลเข้าปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลเพื่อตัดเส้นทางไม่ให้มีการส่งข้าวและน้ำให้แก่ผู้ชุมนุมในทำเนียบเป็นเวลา 3 วัน เพื่อปฏิบัติการยึดทำเนียบคืนแต่จะไม่ให้เสียเลือดเนื้อนั้น ว่า ต้องระวัง ทุกฝ่ายอย่าไปใช้ความรุนแรง



ผมไม่เห็นด้วยที่มีการทะเลาะกันเกิดขึ้นและต้องจบด้วยการใช้ความรุนแรง ทุกฝ่ายควรให้เวลาในการจัดการ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถนำไปสู่การสร้างสรรค์การเมืองไทยได้ ทุกฝ่ายต้องช่วยกันดู ดูตัวเอง สังคมก็ต้องช่วยดู ยิ่งตำรวจและทหารก็ต้องช่วยดูกันใหญ่เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะ



ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์โดยอ้างว่า การที่ศาลไทยพิพากษาจำคุก 2 ปีเพราะมีแรงผลักดันมาจากการเมืองนั้น จะส่งผลกระทบกับประเทศไทยอย่างไรบ้าง น.พ.ประเวศ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้อ่านแถลงการณ์ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้เกิดปัญหา เพราะทุกวันนี้ปัญหาก็เยอะไปหมด จนเกิดการทะเลาะกันใหญ่
ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้สิ่งสำคัญคือต้องอย่านำไปสู่การนองเลือดของคนไทยอีกครั้ง เพราะหากมีคนไทยตายไปสักคนก็ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายจะต้องไม่ไปสู่จุดนั้น และทุกคนต้องกลับตัวหันมาช่วยกันพัฒนาประเทศชาติ นอกจากนี้ ก็ต้องหาทางล้างความรู้สึกที่หมักหมมในจิตใจของแต่ละฝ่ายออกไปให้หมด




"ดังนั้นจุดสำคัญในขณะนี้คือ ทุกฝ่ายต้องป้องกันการนองเลือด ทะเลาะกันไม่เป็นไร แต่อย่าให้นองเลือด ให้เวลากันเพื่อรอจุดลงตัว แต่ถ้าหากถึงขั้นใช้ความรุนแรงถึงนองเลือดก็จะไม่หายขัดแย้ง ดังจะเห็นได้จากประเทศกัวเตมาลาที่เขาขัดแย้งรุนแรงกว่าประเทศไทย มีประชาชนล้มตายนับแสนคน แต่เขาก็ยังหันมาคุยกันได้ เมื่อคุยกันแล้วก็นำไปสู่การสร้างสรรค์ แต่ของไทยยังไม่ทันจะคุยอะไรเลย"