วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ผวาแดงคอมมิวนิสต์-ศก./"ผู้ใหญ่"ส่งสัญญาน/"ชวน"เจรจารัฐบาลแห่งชาติ/"สุเทพ"ไม่ถอย

@@"หน่วยข่าวลับ" รายงานสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมืองการทหาร หลังรัฐบาล"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"นายกรัฐมนตรี ภายใต้การกำกับของ"สุเทพ เทือกสุบรรณ"รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง บริหารประเทศมาได้ ๒ เดือน และกำลังจะมีการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ (๒๗ ก.พ.)ขณะที่กำลังมีความเคลื่อนไหวของม็อบต่อต้านฝ่าย"เสื้อแดง"(๒๔ก.พ.)ที่ขู่จะปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล พร้อมๆกับมีการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ จ.ประจวบฯ ขณะเดียวกันก็มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เดินทางไปพบกับ"พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ฮ่องกง ว่า มีความเคลื่อนไหวจากผลการส่ง"สัญญาณ"จาก"ผู้ใหญ่"คนสำคัญผ่าน"ผู้ใหญ่"ระดับสูงในคณะองคมนตรี ไปยัง"ชวน หลีกภัย"ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ที่นำมาซึ่งการพบปะพูดคุยระหว่าง"ผู้ใหญ่"ในพรรคประชาธิปัตย์ กับ"ร.ต.ท.เชาวรินทร์ ลัทธศักดิ์ศิริ"แห่งพรรคเพื่อไทย ก่อนมีการออกมาระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมพลิกเกมด้วยการหันมาจับตัวกับพรรคเพื่อไทย ในการตั้งรัฐบาลหลังจากนี้

@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า "ผู้ใหญ่"มีความต้องการสกัดไม่ให้สถานการณ์ที่กำลังกัดเซาะทำลายสถาบันระดับสูงของประเทศลุกลามต่อไป หลังจากมีรายงานความเคลื่อนไหวในพื้นที่ภาคเหนือ และอีสาน รวมถึงภาคใต้ตอนบน กับการจัดตั้งกองกำลังของอดีตแนวร่วม"พรรคคอมมิวนิสต์"เดิม โดยใช้ฐานมวลชนของกลุ่ม"เสื้อแดง"ที่เริ่มมีการเกาะตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทั้งฝ่ายซ้ายวิชาการ ที่มีแนวทางตรงข้ามกับ"ซ้ายศักดินา"ที่พร้อมผนึกตัวกับ"ฝ่ายเสื้อแดง"อีกส่วนหนึ่งที่มีแนวทางการต่อสู้ด้วยเหตุผลการสนับสนุน"ทักษิณ" โดยเนื้อหาสำคัญของการเคลื่อนไหวมีข้อตกลงที่แตกต่างไปจากการเคลื่อนไหวเมื่อครั้งหลัง ๑๙ก.ย.๔๙ ที่มี"ทักษิณ"เข้ามาเป็น"ตัวแปรสนับสนุน"ในด้าน"ทุน"

@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ไม่ใช่มีเพียงแต่มวลชนที่อยู่นอกอำนาจรัฐ ที่เป็นประชาชนรากหญ้า และปัญญาชน หากแต่ยังมีการเคลื่อนไหวในหมู่นายทหารในกองทัพจำนวนไม่น้อย ภายใต้การเคลื่อนไหวของ ตท.๑๐ และ ทหารที่ได้รับผลกระทบจากการโยกย้าย รวมถึงที่ได้รับ"อิทธิพล"จาก"ข้อมูล"เกี่ยวกับข้อเท็จจริงในโครงสร้างอำนาจ และสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยที่อยู่ภายใต้"อำนาจ"เหนือ"อำนาจ"ที่กำลังทำให้ผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจของโลกที่กำลังเกิดขึ้นในปี ๒๕๕๒ มีความรุนแรงมากขึ้นและยากควบคุม ซึ่งจะทำให้พวกเขาได้รับความเดือดร้อนไปด้วย และรวมถึงกลุ่มนายทหารที่ไม่พอใจกับภาพความตกต่ำเสื่อมเสียของกองทัพจากพฤติกรรมของนายทหารบางส่วนที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับผลกระโยชน์ทางการเมืองและมีพฤติกรรมที่หมิ่นเหม่ต่อการทุจริตเรียกรับประโยชน์ ในห้วง คมช.

@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า"ผู้ใหญ่"มีความกังวลอย่างมากกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่อาจลุกลามไปยังประชาชนในประเทศและอาจพาลมาสู่สถาบันระดับสูงที่ในระยะหลัง ๑๙ก.ย.๔๙ มีการใส่ข้อมูลด้านลบให้กับประชาชน ทำให้"ผู้ใหญ่"มีการรื้อแนวความคิดเดิมที่จะให้มี"รัฐบาลแห่งชาติ"เกิดขึ้นโดยยังคงมี"กองทัพ"เป็นแบ็คอัพในด้านความมั่นคง ขณะที่มีการเตรียมดึง"เกจิด้านเศรษฐกิจ"ที่เป็น"คนกลาง"ในการเข้าร่วมกันแก้วิกฤติเศรษฐกิจ ที่มีการประเมินแล้วว่ายอดเงินคงคลังที่แท้จริงที่เหลืออยู่นั้นน่าเป็นห่วงโดยเฉพาะเป็นที่แน่ชัดว่าประมาณการจัดเก็บรายได้(ภาษี)จะลดลง ซึ่ง"สัญญาณ"เหล่านี้ทำให้"ผู้ใหญ่"ไม่มั่นใจว่า"อภิสิทธิ์"หรือ"กรณ์ จาติกวณิชย์"รมว.คลัง จะรับมือได้ ซึ่งท่าทีนี้ถูกส่งผ่าน"นายชวน"รวมถึง"พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ"ที่ถูกระบุให้เป็น"ผู้ประสาน"การจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ที่มีการส่งสัญญาณเหล่านี้ไปยังแกนนำของพรรคหลายๆคนรวมทั้ง"สุเทพ" โดยมีการระบุว่าสถานการณ์หนักหน่วงเกินไปที่จะให้พรรคประชาธิปัตย์มาแบกรับโดยเฉพาะประมาณเดือนมิ.ย.๕๒ ที่จะปรากฎภาพที่ชัดเจนในสถานการณ์วิกฤติ ที่ทำให้ในการเดินทางไปเจรจาขอกู้เงิน ๗.๒แสนล้านจากญี่ปุ่น มีข้อสรุปที่รัฐบาลไทยยอมกู้ในอัตราดอกเบี้ย ๓.๗-๓.๘ % ทั้งที่ประเทศอื่นๆกู้เพียงอัตรา ๐.๕-๐.๗ %

@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า นอกจากแรงกระเพื่อมที่ทำท่าว่าจะบานปลายดังกล่าวแล้ว "ผู้ใหญ่"ยังมีความกังวลกับข่าวการดำเนินคดีกับบรรดาผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่มีเนื้อหาหมิ่นต่อสถาบันระดับสูงในห้วง ๒-๓ เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่"ดา ตอปิโด"ไล่มาจนถึง"ใจ อึ๊งภากรณ์"ลูกชายของ"ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์"และลามเลยไปถึงสื่อมวลชนต่างประเทศในประเทศไทย โดยเฉพาะการดำเนินคดีกับ"นายนิโครลายส์"นักเขียนชายออสเตรเลีย ที่ถูกจับกุมและต้องโทษหมิ่นสถาบัน ที่ทำให้เกิดกระแสโจมตีกระบวนการยุติธรรมของไทยไปทั่วในต่างประเทศโดยเฉพาะในออสเตรเลียและบรรดาประเทศต่างๆรวมถึงส่งผลกระทบต่อทัศนคติของสื่อต่างประเทศต่อสถาบันในประเทศ..โดยเฉพาะยิ่งมีการเคลื่อนไหวทั้งในและนอกประเทศไทยต่อกฎหมายหมิ่นสถาบันในรัฐธรรมนูญผ่าน"ใจ อึ๊งภากรณ์" ซึ่งความกังวลาดังกล่าวนำมาสู่ความเคลื่อนไหวของ"ผู้ใหญ่"สอดรับกันล่าสุดกับข่าวการได้รับพระราชทานอภัยโทษของ"นิโครลายส์"(๑๙ก.พ.)

@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่าเบื้องหลังกรณีดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับการเตรียมจัดประชุมอาเซียนซัมมิทที่หัวหิน(๒๗ก.พ.)และรวมถึงท่าทีจากการเดินทางมาเยือน ๔ ประเทศในอาเซียนของ"ฮิลลาลี คลินตัน"รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ที่ไม่มีประเทศไทยอยู่ในรายการเยือน ที่แม้จะมีการประสานจาก"สุรินทร์ พิศสุวรรณ"ในฐานะเลขาธิการอาเซียน ในการพบปะกับ"ฮิลลาลี"ที่พยายามให้"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"นายกรัฐมนตรีของไทยมีโอกาสเดินทางไปในที่อินโดนิเซียในช่วงการเยือน แต่ก็ยังมีแรงเสียดทานผ่านท่าทีของฑูตสหรัฐประจำประเทศไทย ที่เข้าพบ"นายชวน หลีกภัย"ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์แทนที่จะพบ"อภิสิทธิ์"เมื่อ ๒-๓สัปดาห์ก่อน

@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่าประเด็นที่สหรัฐไม่พอใจประเทศไทย และอาจทำให้ประเทศไทยโดยรัฐบาลปัจจุบัน(อภิสิทธิ์)ต้องพยายามเคลียร์กรณีคดียึดสนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง และกรณียึดทำเนียบรัฐบาล พร้อมๆกับกรณี เหตุการณ์ตำรวจสลายการชุมนุม ๗ ตุลาคม ในห้วงเวลาที่มีการประชุมอาเซียนซัมมิท คือ กรณีที่ในช่วงที่มีการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ มีการยึดเครื่องบินสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ของสหรัฐจำนวนหลายลำเพื่อเป็นประกันกับสหรัฐในห้วงเวลานั้น ที่ทำให้ช่วงเวลานั้นทำให้"ประธานาธิบดีบุช"ไม่พอใจ และกองทัพสหรัฐเตรียมที่จะเคลื่อนกองเรือที่ ๗ เข้ามาในประเทศไทยเพื่อกดดัน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวนำมาซึ่งความกังวลของ"ผู้ใหญ่"และเป็นสาเหตุต่อมาที่ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญมีการตัดสินคดียุบพรรคพลังประชาชนอย่างทุลักทุเลจนถูกวิจารณ์อย่างหนัก ทั้งนี้เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ความวุ่นวายโดยอาศัยกระบวนการยุติธรรม เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวนำมาซึ่งห้วงเวลานั้นสื่อสัญชาติสหรัฐมีการเคลื่อนไหวโจมตีประเทศไทยอย่างหนัก

@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า แม้กระนั้นข้อหารือใน"สัญญาณ"จาก"ผู้ใหญ่"ที่ส่งผ่านไปยัง"ชวน"และ"บัญญัติ บรรทัดฐาน"ก็เห็นด้วย ในการให้รัฐบาลถอยฉากออกจากการรับหน้าเสื่อการแก้วิกฤติเศรษฐกิจโดยให้มี"คนอื่น"(คนนอก)มาคั่นก่อนที่พรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ถูกปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามจาก"สุเทพ"ที่มี"ผู้ใหญ่"อีกท่านให้การสนับสนุนมาตั้งแต่ต้น

@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่าประเด็น เงินบริจาดให้พรรคประชาธิปัตย์ ๒๕๐ ล้านของ"ประชัย เลี่ยวไพรัตน์"แห่งทีพีไอ.นั้นเป็นเรื่องจริงที่รับรู้กันในหมู่แกนนำพรรค โดยเป็นการส่งผ่าน"นิพนธ์ บุญยามณี"รองเลขาธิการพรรค แต่ที่เรื่องนี้แดงออกมาเพราะ มีการเข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงินของทีพีไอ.และพบว่ามีการปลอมเอกสารภาษี กรณีการจ้างบริษัทโฆษณาเมสไซอะของ"สุชาติ สังข์ขาว"ซึ่งเคยร่วมทำธุรกรรมกับ"สุพัฒน์ ธรรมเพชร"และ"ไทกร พลสุวรรณ"มือไม้ของ"สุเทพ เทือกสุบรรณ"ที่ภายหลังม็อบ"ชมรมคนรู้ทันทักษิณ"ที่มี"น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ"และกลุ่มมือไม้ของ"เสธหนั่น"..เครือข่ายของ"สุเทพ"มีความเชื่อมโยงกับ"ประชัย"มากขึ้นผ่านคอนเนคชั่นในกองทัพโดยเฉพาะมีการเชื่อมผ่านไปยังเครือข่ายของทหารบ้านสี่เสาฯ

@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่ากรณีเงินดังกล่าวเป็นส่วนผสมระหว่างเรื่องเก่ากับเรื่องใหม่ ที่ทำให้"ประชัย"เองก็ยอมรับกับสื่อว่าเขาเคยบริจาดให้กับพรรคประชาธิปัตย์แต่เป็นห้วงที่รัฐธรรมนูญ ๔๐ บังคับใช้ซึ่งยังทำได้ แต่ความจริงจากหลักฐานของ ดีเอสไอ.ที่พบคือเส้นทางของเงินซึ่งมีมากกว่า ๒๕๐ ล้าน อาจถึงหลัก ๒-๓,๐๐๐ล้าน ที่มีการเคลื่อนไหวในระยะปี ๒๕๔๘-๕๐ ไม่ได้ไปที่ปลายทางเฉพาะกลุ่มธุรกิจโฆษณาที่ทำโฆษณาให้พรรคประชาธิปัตย์ หากแต่มีการโอนไปยังปลายทางบริษัทขนส่ง ที่ไปสอดรับกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการจัดคนเข้ามาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล และสนามบินสุวรรณภูมิ ในเครือข่ายของ"สุเทพ"ห้วงรัฐบาล"สมัคร"และ"สมชาย"

@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า เริ่มมีท่าทีความไม่พอใจจากบรรดาแกนนำในปีกของ"สุเทพ"ที่เคยร่วมแรงร่วมใจกันในห้วงสถานการณ์ต่อสู้กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยเฉพาะมีท่าทีจาก"ชำนิ ศักดิเศรษฐ"ที่เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่ระดมคนไปช่วยแต่ผลสุดท้ายเมื่อมีการตั้งรัฐบาลทั้งที่"สุเทพ"เป็นผู้จัดการทุกอย่างกลับไม่จัดตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ให้กับ"ชำนิ"ตามที่เขาคาดหมาย มีเพียง"วิทยา แก้วภราดัย"ซึ่งก็เป็นอีกหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ ที่ได้รับการตอบแทน ทำให้มีกระแสจากคนใกล้ชิด"ชำนิ"ว่าเขาไม่พอใจอย่างมากและกำลังตัดสินใจที่จะย้ายสังกัดไปอยู่กับ"เสธหนั่น"ต้นสังกัดเดิมของ"บ้านสนามบินน้ำ"ที่พรรคชาติไทย

@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า สถานการณ์โดยรวมที่ประเมินแล้วว่าไม่สามารถควบคุมได้กับวิกฤติเศรษฐกิจ ที่มีผลพวงจาก ๒ ปีก่อนซ้ำกับสถานการณ์โลก ทำให้แกนนำระดับอาวุโสของพรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้มีการ"ยุบสภา"หลังจากผลักดันนโยบายประชานิยมได้ผลในระดับต้นๆแล้วโดยอาจใช้สถานการณ์การชุมนุมของม็อบเสื้อแดงและพันธมิตรที่อาจถูกทำให้สถานการณ์บานปลาย เป็นประเด็นอ้างที่ล้างไพ่

ที่มา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sunnews