วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ทลายโกดังซุกพระโบราณพบของกลางนับพันชิ้น

หมวดข่าว : สังคม

โดยทีมข่าว : ศิลปวัฒนธรรม

ตำรวจนำหมายศาลเข้าตรวจค้นหลังได้รับเบาสะแสว่าแหล่งเป้าหมาย เป็นที่เก็บวัตถุโบราณ พบของกลางจำนวนมาก คนดูแลบ้านยอมรับมีการซื้อขายวัตถุโบราณบางครั้งจ่ายกันนับล้าน แม่บ้านสาว "เสี่ยมารุต" เป็นเจ้าของ

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล รอง.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.วัฒนา วงศ์จันทร์ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พ.ต.ท.วรพจน์ ชูเชิด รอง.ผกก.ป. พ..ต.ท.พลพรรษ ผ่องโอภาส สว.สป. พ.ต.ท.ภูริสิทธิ์ ทิมทอง สว.สส.สภ.คูบางหลวง ช่วยราชการ กสส.ภ.จว.ปทุมธานี และกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง นำหมายค้นจากศาลจังหวัดธัญบุรีเลขที่ 130/2552 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 51/83 ซอยรังสิต-นครนายก 12 ม.3 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เนื่องจากสืบสวนทราบว่าเป็นแหล่งซุกซ่อนโบราณวัตถุและพระพุทธรูปจำนวนมาก

ทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงพบว่าบ้านหลังดังกล่าว เป็นทาวเฮ้าส์ 2 ชั้น โดยประตูเหล็กหน้าบ้านหลังดังกล่าวมีการคล้องโซ่และปิดล๊อคกุญแจอย่างแน่นหน้า นอกจากนี้ยังพบ น.ส.รัตนาภรณ์ อินทโชติ อายุ 21 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 71/1 ม.4 ต.แสนตอ อ.ขาณุวรลักษณ์ จ.กำแพงเพชร อยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงหมายค้น และทำการตัดลูกกุญแจเปิดประตูเข้าไปตรวจสอบด้านใน

ภายในบ้านหลังดังกล่าวเจ้าหน้าที่พบว่าที่บริเวณชั้นล่างนั้นมีวัตถุโบราณและพระพุทธรูปหลากหลายชนิดวาง ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ตั้งเรียงอยู่ด้านในจำนวนนับพันชิ้น โดยพระพุทธรูปและสิ่งของต่างๆในบ้านมีลักษณะเก่าแก่ อายุหลายสิบหรือหลายร้อยปี

สอบสวน น.ส.รัตนาภรณ์ อินทโชติ กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวนั้นเป็นของนายมารุต เปรื่องนา อายุ 41 ปี โดยบ้านหลังนี้นายมารุตไม่ได้มาอยู่ มีเพียงลูกๆ ของนายมารุตอยู่อาศัยทั้งหมด 3 คน โดยตนเองนั้นรับว่าจ้างให้มาเป็นแม่บ้านคอยดูแลบ้าน

ส่วนสิ่งของที่อยู่ในบ้านทั้งหมดนั้นจะมีคนนำมาให้นายมารุตในเวลากลางคืน และบางครั้งในเวลากลางคืนก็จะมีคนมาที่บ้านหลังนี้และจะตกลงซื้อขายของกัน โดยบางครั้งก็มีการซื้อขายกันได้เงินที่ละจำนวนมาก บางที 7-8 แสน บางครั้งเป็นล้านๆบาทก็มี

สำหรับนายมารุต จะมีภรรยาหลายคนและมีร้านอาหารอยู่หลายแห่ง ทั้งที่สวนจตุจักร และในหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปีที่ปทุมธานี ส่วนทรัพย์สินต่างๆ เหล่านี้ตนเองก็ไม่ทราบว่าได้มาจากไหน ตนเองเป็นเพียงลูกจ้างที่นายมารุตจ้างให้มาดูแลเท่านั้น

น.ส.รัตนาภรณ์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงบ้านและแสดงหมายค้น ตนเองก็ได้โทรศัพท์ไปหานายมารุต และนายมารุตก็ได้รับสาย ตนจึงแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจค้นที่บ้าน ซึ่งหลังจากนั้นนายมารุต ก็ปิดโทรศัพท์ทันที จากนั้นตนเองพยายามติดต่อไปอีกหลายครั้งก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

ด้าน พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล รอง.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นนั้นพบว่าบ้านหลังนี้มีวัตถุโบราณอยู่เป็นจำนวนมาก ร่วมทั้งพระพุทธรูปปางต่างๆ รวมแล้วนับพันชิ้น ซึ่งถ้าเป็นของเก่าแก่คงมีมูลค่าหลายสิบล้านบาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้อายัดไว้ตรวจสอบถึงที่มาที่ไป รวมทั้งจะได้ประสานงานไปยังผู้เกี่ยวข้องอาทิ กรมศิลปากร หรือผู้เชี่ยวชาญให้เดินทางมาตรวจสอบ และจะได้ติดตามตัวนายมารุต มาสอบสวนว่าสิ่งเหล่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ถ้าเป็นสิ่งของที่ได้มาโดยผิดกฏหมายก็จะได้ดำเนินคดีต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: