วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2552

"สุเทพ-สนธิ"บนผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว

หมวดข่าว : วิเคราะห์
โดย กองบรรณาธิการ : TheCityJournal
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยว่า พยายามที่จะให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พบปะหารือกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (5 มีนาคม) เพราะไม่ต้องการให้ทั้ง 2 คนนี้เกิดความขัดแย้งกัน
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ กับแกนนำพันธมิตร เริ่มมีความเห็นที่แตกต่างกันมากขึ้น เพราะพรรคประชาธิปัตย์ นั้น มองว่า ได้อำนาจมาโดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะมีเสียงส.ส.สนุบสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี เกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ขณะที่แกนนำพันธมิตร กลับเห็นว่า การชุมนุมต่อเนื่องยาวนาน 193 วัน เป็นผลให้นายกรัฐมนตรี 2 คน คือ นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พ้นจากตำแหน่ง ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ดำเนินการใดๆ เลย จึงเท่ากับพรรคประชาธิปัตย์ ชุบมือเปิด อำนาจ
ดังนั้น นายสนธิ ลิ้มทองกุล จึงเริ่มการทวงบุญคุณจากรัฐบาล ด้วยการผลักดันตำรวจสายพันธมิตร ให้เข้ามาอยู่ในไลน์อำนาจ และต้องการให้จัดการตำรวจสีแดง โดยเฉพาะตำรวจแดงที่ร้ายประชาชนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ที่หน้ารัฐสภา
อย่างไรก็ตาม จากท่าทีของนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่พูดในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์" ว่า จะดำเนินการกับคดีความที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมที่ผ่านมาให้ชัดเจนใน 1 เดือน ทำให้แกนนำพันธมิตร ไม่พอใจคำพูดดังกล่าว และนายสุเทพ ก็ปฏิเสธที่จะดันตำรวจเสื้อเหลือ เข้ามาอยู่ในไลน์อำนาจ
นี่จึงเป็นปัจจัยทำให้แกนนำพันธมิตร ชิงประกาศตั้งพรรคการเมือง ซึ่งแน่นอนแล้วว่าจะชื่อ พรรคเทียนแห่งธรรม ซึ่งนั่นหมายความว่าจะชิงพื้นที่ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ภาคตะวันออก เรื่อยลงไปถึงภาคใต้ และในกรุงเทพฯ และทันทีที่พันธมิตร ประกาศตั้งพรรค ส.ส.ประชาธิปัตย์ จึงครางฮือว่าหายนะกำลังจะมาเยือนประชาธิปัตย์
แต่ก็ใช่ว่าประชาธิปัตย์ จะไม่มีเครื่องมือต่อรองแกนนำพันธมิตร เพราะต้องไม่ลืมว่าแกนนำพันธมิตร ทุกคนนั้นมีคดีติดตัวทั้งสิ้น อำนาจการเมืองของประชาธิปัตย์ เชื่อมั่นถึงกับออกปากลั่นว่า "ระวังมันจะติดคุกหัวโตทุกคน"
พรรคประชาธิปัตย์ จึงถือว่ามีแต้มต่อที่เหนือกว่าพันธมิตร
แต่คนในพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่อยากให้เกิดการ "แตกหัก" เพราะหายนะจะหนักหน่วงที่สุดในภาวะที่ทักษิณ ชินวัตร เปิดเกมสู้ทั้งในและนอกประเทศ การสร้างศัตรูสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่มีประโยชน์ จะมีแต่โทษและผลเสียกับทั้งพันธมิตร และประชาธิปัตย์
เพราะฉะนั้น หมากเกมนี้จึงต้องดูที่เกมต่อรองผลประโยชน์ระหว่างประชาธิปัตย์ กับแกนนำพันธมิตร ว่าจะลงเอยกันเมื่อไหร่

ไม่มีความคิดเห็น: