วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

กกต.ชี้อาญา"สุเทพ"โยงยุบปชป.ไม่ได้

หมวดข่าว : การเมือง
โดยทีมข่าว : รัฐสภา
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งชี้การดำเนินคดีอาญา "สุเทพ" โยงไปสู่การดำเนินคดีเพื่อยุบพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ชี้เป็นความผิดส่วนบุคคล
มติคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่สั่งให้ดำเนินคดีอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดกรณีนายธานี เทือกสุบรรณ น้องชายของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทุจริตการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพราะไปแจกทุนการศึกษาในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง โดยหนึ่งในนั้น คือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ขณะนี้ได้ส่งให้ศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยชี้ขาดเป็นขั้นตอนสุดท้าย
ทั้งนี้ หากศาลอุทธรณ์ พิจารณาแล้วเห็นว่าชอบกับกกต. ผู้ที่เกี่ยวข้องจะมีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
ผลของคดีนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่านายสุเทพ เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่ง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 ระบุว่า หากกรรมการบริหารพรรคมีส่วนรู้เห็นกับการทุจริตเลือกตั้ง จะต้องยุบพรรค แต่ในพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 ไม่ได้กำหนดโทษยุบพรรคการเมืองเอาไว้ด้วย
แหล่งข่าวจากสำนักงานกกต. เปิดเผยว่า กรณีของนายสุเทพ นั้นเป็นความผิดส่วนบุคคล ไม่สามารถนำไปโยงเป็นเหตุให้ต้องยุบพรรคประชาธิปัตย์ แม้ว่านายสุเทพ จะเป็นกรรมการบริหารพรรคก็ตาม คงมีโทษทางอาญาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม อาจจะมีความพยายามที่จะโยงว่า การแจกสิ่งของมีสัญลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะเป็นความผิดของพรรคด้วย นั้น แหล่งข่าวกล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์ว่าพรรคมีส่วนรู้เห็นว่าเป็นผู้สั่งให้กระทำและแจกสิ่งของนั้น ๆ จึงยากที่จะสาวไปให้เป็นความรับผิดชอบของพรรคประชาธิปัตย์
รายงานข่าวจากกกต. แจ้งว่า กรณีกกต.มีมติให้มีการเลือกตั้งนายกอบจ.สุราษฎร์ธานี ใหม่ และสั่งให้ดำเนินคดีอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องและร่วมแจกทุนการศึกษา ประกอบด้วย นายสุเทพ นายชุมพล กาญจนะ ส.ส. สุราษฎร์ และนายประพนธ์ นิลวัชรมณี หัวคะแนน โดยขณะนี้กรณีดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการเขียนสำนวนส่งให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย หากศาลไม่เห็นด้วยกับมติของกกต. นายสุเทพ ก็ถือว่าไม่มีความผิด
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้มีความเป็นไปได้ว่าศาลอาจจะสั่งยกฟ้องเนื่องจากในสำนวนที่กกต.สั่งเลือกตั้งใหม่ และให้ดำเนินคดีอาญาและเตรียมส่งฟ้องศาลนั้นปรากฏว่าไม่ได้เรียกนายสุเทพ มาสอบสวนทั้งในชั้นกกต.จังหวัด และกกต.กลาง ซึ่งมีผลทำให้สำนวนอ่อนลง และเชื่อว่านายสุเทพ จะยกประเด็นนี้ขึ้นมาต่อสู้ในชั้นศาลด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลยกคำร้องกกต.ไม่สามารถนำคำร้องกลับมาสอบสวนเพิ่มเติมได้ เนื่องจากอายุความเกิน 1 ปีแล้ว ทั้งนี้ กกต.ก็อาจมีความเสี่ยงผิดตามพ.ร.บ.คณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 มาตรา 29 ห้ามมิให้กรรมการการเลือกตั้ง กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และอนุกรรมการ กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่เพื่อเป็นคุณ หรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดในการเลือกตั้ง หรือกระทำการหรือละเว้นกระทำการ โดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบในการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้ง หรือการออกเสียงประชามติ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี

ไม่มีความคิดเห็น: