วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2552

รวบแล้วเสี่ยเต้นท์รถนายทุนผลิตแบงค์ปลอม



หมวดข่าว : สังคม


โดยทีมข่าว : อาชญากรรม


เสี่ยเต้นท์รถนายทุนจ้างทำแบงค์ปลอมจนมุมพร้อมลูกน้อง ตำรวจโคราชรวบถึงบ้านย่านลาดพร้าว ของกลางเพียบ ยังปากแข็งปฏิเสธ ด้านลูกมือสารภาพสิ้นไส้ ปลอมทั้งแบงค์ไทย เขมร พม่า ไม่เว้นแม้ประเทศแถบแอฟริกาใต้ พาสปอต วีซ่า เอทีเอ็ม ผบช.ภ. 3 ระบุเป็นขบวนการใหญ่ระดับชาติ สร้างความสูญเสียให้เศรษฐกิจอย่างมาก
วันที่ 29 ม.ค. เมื่อเวลา 09.45 น. ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผบก.ภ.นครราชสีมา และพ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา หัวหน้าชุดสืบสวนจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมขบวนการผลิตแบงค์ปลอม ได้ผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายศรรามณ์ หรือพงษ์เดช ติงวัฒนะ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 235 ซอยลาดพร้าว 115 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เสี่ยเต้นท์ขายรถยนต์มือสองนายทุนใหญ่ ที่สั่งผลิตแบงค์ปลอม นายอลงกต เที่ยงคืน อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ถ.ปทุมกรุงเทพฯ ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ลูกน้องคนสนิทของนายศรรามณ์ และนางกัลยา ท่านมุข อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/2 หมู่ 5 ต.หนองปลาไหล อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร ภรรยานายอลงกต


สำหรับของกลางที่ตรวจยึดครั้งนี้ประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องปริ้นเตอร์ เครื่องปั้มเอกสารนูน เครื่องตัดกระดาษ แผ่นฟรอยสีทอง แผ่นโลหะ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด และอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้ในการผลิตธนบัตรปลอมของไทย กัมพูชา พาสปอต เอทีเอ็ม ตราประทับทางราชการประเทศต่างๆ และวีซ่าปลอมอีกหลายประเทศ รวม 48 รายการ


พล.ต.ท.กฤษฎา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 51 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาได้บุกจับกุม นายสนอง เงินจันทร์ อายุ 54 ปี นายวิทยา บัวรอด อายุ 28 ปี และนายดำรงชัย มะยมหิน อายุ 35 ปี ได้ที่โรงพิมพ์เอ็มบางกอก เลขที่ 4032/2 ถ.จตุรทิศ แขวงดินแดง กรุงเทพฯ พร้อมยึดของกลางธนบัตรปลอมราคาฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 46 ฉบับ กระดาษชนิดมันที่ใช้ผลิตธนบัตรปลอมจำนวน 800 แผ่น แท่นพิมพ์จำนวน 2 แท่น แผ่นแถบสะท้อนแสง แผ่นเพลท สำหรับทำแม่พิมพ์ เครื่องอัดเพลท 1 เครื่อง เครื่องอคมพิวเตอร์ 2 ชุด เครื่องปริ๊นเตอร์สี 2 เครื่อง สีกระป๋องที่ใช้พิมพ์ธนบัตร ที่รองกระดาษ กาวทาเพลท และอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตธนบัตรปลอมรวมอีกกว่า 10 รายการ


ครั้งนั้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ร่วมกันผลิตธนบัตรปลอมมานานหลายเดือนแล้ว โดยมีนายทุนใหญ่คือนายพงษ์เดช เจ้าของเต้นท์รถมือสองในเขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และนายอลงกต เป็นผู้ว่าจ้างให้ผลิตธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 10,000 ฉบับ แลกกับเงินค่าจ้างจำนวน 200,000 บาท


ต่อมาศาลจังหวัดนครราชสีมา ได้ออกหมายจับนายอลงกต และทีมสืบสวนได้ตามแกะรอยนานนับเดือน กระทั่งสามารถจับกุม นางกัลยา ภรรยาของนายอลงกต ได้เป็นคนแรก เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 52 ที่บ้านพักภายในหมู่บ้านอัมรินทร์ แขวงสายไหม โชคชัย 4 กรุงเทพฯ จากนั้นชุดสืบสวนได้ติดตามจับกุมนายอลงกต ได้ในค่ำวันเดียวกัน ขณะกบดานอยู่ภายในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยลาดพร้าว-วังหิน 62 โชคชัย 4 กทม. จนกระทั่งคืนวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา จึงติดตามจับ นายพงษ์เดช ที่เปลี่ยนชื่อเป็น นายศรรามณ์ ไว้ได้ภายในบ้านพักเลขที่ 235 ซอยลาดพร้าว 115 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ


สอบสวนนายอลงกต สารภาพว่า นายศรรามณ์ สัญญาว่าจะให้บ่อปลา 1 บ่อ ย่าน ต.บางปรอก จ.ปทุมธานี เป็นค่าจ้าง ในการไปว่าจ้างพรรคพวก 3 คนที่ถูกจับก่อนหน้านี้ พิมพ์ธนบัตรปลอมที่โรงพิมพ์เอ็มบางกอก กรุงเทพฯ จำนวน 10,000 ฉบับ มูลค่ารวม 10 ล้านบาท ด้วยเงินค่าจ้าง 2 แสนบาท จากนั้นจะมีลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ภาคอีสาน เหนือ และใต้ ที่สั่งซื้อมารับธนบัตรปลอมไปกระจายสู่ตลาดอีกครั้ง


นายอลงกต สารภาพว่า นอกจากนี้นายศรรามณ์ ยังได้สั่งให้ผลิตธนบัตรปลอมอีกหลายประเทศ อาทิ แบ็งค์กีนี (แอฟริกาใต้ ธนบัตรกัมพูชา และธนบัตรพม่าตลอดจนพาสปอต วีซ่า และเอทีเอ็มปลอมอีกหลายประเทศตลอดจนบัตรประชาชน และหลักฐานสำคัญอื่นๆอีกหลายรายการ ส่วนนางกัลยาภรรยาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตธนบัตรปลอม เป็นเพียงคนช่วยขนสิ่งของหลบหนี ระหว่างที่นายอลงกตถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวเท่านั้น


พล.ต.ท.กฤษฎา กล่าวว่า เบื้องต้นนายอลงกต ให้การรับสารภาพและให้การซัดทอดนายศรรามณ์ว่าเป็นนายทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการผลิตธนบัตรปลอมระดับชาติครั้งนี้ แต่ตัวนายศรรามณ์ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อหาและขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น แต่ตำรวจมีหลักฐานพยานแน่นหนาสามารถดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน


"สำหรับการจับกุมครั้งนี้ ถือเป็นการถอนรากถอนโคนขบวนการผลิตแบงค์ปลอม ที่ถือว่าเป็นขบวนการระดับชาติ เพราะจากการสืบสวนและพบหลักฐาน มีการผลิตธนบัตรปลอมของต่างชาติอีกหลายประเทศ พร้อมเอกสารสำคัญอย่างอื่น เช่น พาสปอต วีซ่า บัตรประชาชน เอทีเอ็ม และตราประทับทางราชการของประเทศต่างๆอีกหลายรายการ ขบวนการผลิตธนบัตรปลอมนี้ สร้างความเสียหายในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศอื่นๆตำรวจจะได้ประสานกับประเทศที่เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป " พล.ต.ท.กฤษฏากล่าว

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล