วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2551

รมว.ยุติธรรมเดินเครื่องคดีหมิ่นเบื้องสูง ไม่การันตีเก้าอี้4บิ๊กดีเอสไอ.

รมว.ยุติธรรม ประกาศเดินเครื่องสางคดีหมิ่นเบื้องสูง ส่วนนโยบายสำคัญจะยกเลิกอายุความคดีทุจริตทุกประเภทสามารถดำเนินคดีได้ตลอดเวลาให้สาสมกับสิ่งที่โกงชาติโกงแผ่นดิน พร้อมปัดกวาดการโยกยย้ายที่ไม่เป็นธรรม จะต้องไม่มีเด็กเส้น ยอมรับผิดหวังการทำงานของดีเอสไอ ไม่การันตีเก้าอี้อธิบดีดีเอสไอ เตรียมส่งลงไปทำคดีภาคใต้ ร่วมกับปปง.เพื่อพิสูจน์ฝีมือ ชี้ 4 บิ๊กตำรวจในดีเอสไอ หากไม่เลิกคิดว่ายังเป็นตำรวจ ก็อยู่ไม่ได้ ด้านคดีเอสซีแอสเซส ขอดูข้อกฎหมายก่อนว่าปัดฝุ่นใหม่ได้หรือไม่
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงนโยบายการบริหารงานกระทรวงยุติธรรม ว่า จะเร่งดำเนินการใน 2 เรื่องหลัก เรื่องแรกคือเน้นปราบปรามคดีที่เกี่ยวข้องกับสถาบันหลักของประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำคำพูด การสื่อสารในรูปแบบใด หรือเว็บไซต์ อันนี้เป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีหน้าที่รักษากฎหมาย

ประการที่สองคือการทำกระทรวงยุติธรรมให้เป็นกระทรวงของประชาชน เป็นกระทรวงที่อำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะการมใช้อำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม ซึ่งหลายส่วนมีอำนาจมาก คือเราต้องใสทั้งสองด้าน การปฏิบัติหน้าที่ต้องตรงไปตรงมา ถ้าหากไม่มีความตรงไปตรงมาความยุติธรรมจะเกิดขึ้นไม่ได้ และจะน้อมนำพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มอบให้กับคณะรัฐมนตรี ซึ่งผมก็จะนำมามอบให้กับข้าราชการกระทรวงยุติธรรม ให้เป็นแนวทางการดำเนินงาน โดยเฉพาะที่พระองค์ท่านบอกว่า ให้ช่วยกันทำให้ประเทศชาติสงบเรียบร้อย ถ้าไม่เรียบร้อยสังคม บ้านเมืองก็อยู่ไม่ได้ การที่จะทำให้บ้านเมืองเรียบร้อยได้ กระทรวงยุติธรรมจะต้องให้สังคมเป็นธรรมอย่างชอบธรรม ไม่ใช่เป็นธรรมตามกฎหมาย ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในทางเป็นจริงแล้วไม่เป็นธรรม ใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกไม่ควร ฉะนั้น ตรงนี้ต้องนำไปปฏิบัติ ให้เป็นรูปธรรม

นโยบายที่สำคัญหลังจากแถลงนโยบายรัฐบาล ที่ต้องทำเร่งด่วน คือ การปรับปรุงกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมในหลายๆ ส่วน กฎหมายที่ทำให้การปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบยากลำบากมากขึ้น กฎหมายที่เกี่ยวข้องที่จะดำเนินการเอาผิดที่จะต้องเอาโทษข้าราชการที่ทุจริต ยกเลิกอายุความคดีทุจริตทุกประเภทเพื่อให้ผู้กระทำความผิดทุจริตไม่มีวันหมดอายุความ สามารถดำเนินคดีได้ตลอดเวลา ให้สาสมกับสิ่งที่เขาได้โกงชาติโกงแผ่นดินไว้

ด้านการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย การใช้อำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย จะต้องถูกตรวจสอบได้ ในเมื่อเราใช้กฎหมายกับประชาชน ก็พร้อมที่จะให้ประชาชนตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐของเจ้าหน้าที่เพื่อให้เกิดความถูกต้อง และทำให้ประชาชนมีความรู้สึกว่าได้รับความเป็นธรรม และมีส่วนร่วมในการบริหาราชการแผ่นดินกับรัฐบาล

ส่วนเรื่องการตรวจสอบองค์กรที่ใช้อำนาจรัฐไม่ใช่เฉพาะกระทรวงยุติธรรม ที่จะต้องโดนตรวจสอบแต่ทุกองค์กรประชาชนก็สามารถตรวจสอบได้เช่นกัน ทกุกกรมมีอำนาจเหมือนกันหมด เพียงแต่การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ต้องปลูกฝังเรื่องคุณธรรมให้เจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะเรื่องการโยกย้ายแต่งตั้ง ซึ่งในกระทรวงยุติธรรมต้องมีความเป็นธรรม หากในกระทรวงไม่มีความยุติธรรมแล้ว จะไปสร้างความยุติธรรม หรือไปตรวจสอบคนอื่นได้อย่างไร

จะทำให้การแต่งตั้งโยกย้ายเป็นธรรม รวมไปถึงการกระทำที่ไม่ถูกต้องไม่ว่าจะเป็นเรื่องผิดระเบียบผิดวินัย ถ้าหากมีใครทำผิดก็ต้องมีการสอบสวนกันไม่ใช่คนนี้รู้จักผู้ใหญ่ คนนี้รู้จักคนนั้น กลายเป็นว่าคนที่ไม่มีเส้นไม่มีสายทำผิดนิดเดียวโทษหนัก คนมีเส้นมีสายทำผิดมหาศาลไม่เป็นไรอย่างนี้แหล่ะคือจุดเริ่มต้นของความไม่เป็นธรรมในกระทรวงยุติธรรม หากจุดเริ่มต้นของประทรวงให้ความเป็นธรรมกับเขาไม่ได้

กรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อฝ่ายการเมืองเข้ามาก็ต้องดำเนินการกับกรมนี้ ท่านจะทำอะไรกับกรมนี้บ้าง

กรมสอบสวนคดีพิเศษ นั้น เกิดจากนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ สำหรับกรมสอบสวนคดีพิเศษมีกฎหมาย เมื่อเข้าสภาแล้วหลายมาตราที่มีการแก้ไขตามที่ผมต้องการ แต่เมื่อนำมาใช้แล้ว หลายมาตราไม่ได้เป็นไปตามที่มีการพูดกันในสภา เข้าทำนองผู้ร่างไม่ได้ใช้ ผู้ใช้ไม่ได้ร่าง ต่อจากนี้ไปในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผมจะต้องให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ใช้กฎหมายให้เป็นธรรม และตรงตามเจตนารมณ์การตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้มาเป็นกรมถ่วงดุลอำนาจการใช้อำนาจของตำรวจ ไม่ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นสำนักงานตำรวจ 2

จะย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่

ณ วันนี้ไม่มีความคิด ผมจะต้องใช้หลักการทำงานเป็นเกณฑ์

คดีที่อยู่ในกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยเฉพาะคดีปรส.เกี่ยวข้องโดยตรงกับรัฐบาลประชาธิปัตย์จะดำเนินการอย่างไร

สำหรับผมทุกคดีสำคัญหมด ไม่ได้มองว่าเป็นคดีของรัฐบาล ไม่มองว่าเป็นคดีของฝ่ายค้าน ไม่มีคดีของพ่อค้าหรือคดีของใคร ทุกคดีคือคดีของประชาชนที่มีผลกระทบต่อความยุติธรรมของประเทศ ผมจะวางหลักไม่ให้เป็นคดีของรัฐบาล คดีฝ่ายค้าน คดีการเมือง คีดอาญา แต่จะต้องเป็นหลักว่าคดีประเภทไหนความเสียหายอย่างไร ต้องดูที่พฤติการณ์ของคดี และพยานหลักฐาน ต้องใช้เวลาสอบสวนภายในกี่วัน เราจะไม่ดูที่คู่กรณี เมื่อไหร่ที่เราเอาคู่กรณีเข้ามาเป็นประเด็นเราจะเกิดความวอกแวก ความยุติธรรมจะไม่เกิด

เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษ และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นผู้บังคังคับบัญชาสูงสุดจะต้องยึดหลักนี้ จะต้องไม่สนใจว่าคู่กรณีเป็นใคร แต่ต้องสนใจว่าพฤติดรรมที่เกิดเหตุของเรื่องคืออะไร พยานหลักฐานเป็นอย่างไร

ผมจะมอบหลักเกณฑ์อย่างนี้ ถ้าทำได้ ผมจะเขียนแนวทางขึ้นมาเป็นเกณฑ์ในการปฏิบัติ เพื่อไม่มีการแทรกแซง ผมจะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป้นกรมอำนวยความยุติธรรม จะไม่ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นอีกหนึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะหากเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2 ก็อาจจะเกิดคุณเกิดชอบซึ่งกระทบกับการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน

เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษต้องมีสำนึกคุณธรรม ในการปฏิบัติหน้าที่ให้ได้ว่าเรามีหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุล การใช้อำนาจของตำรวจ

คดีพิเศษ ก็ต้องมาดูหลักเกณฑ์อีกทีว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเราอาจจะต้องเริ่มทำคดีก่อนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จะเข้าไปปรับปรุงโครงสร้างอะไรในดีเอสไอหรือไม่

นาทีนี้ ยังตอบไม่ได้ เพิ่งเข้ามารับหน้าที่

มองว่าดีเอสไอ เป็นสตช.2 หรือเปล่า จากการที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ริเริ่มให้เกิดขึ้นมา

ผมไม่ได้มองว่าเขาเป็นอะไร แต่จากการที่ผมเริ่มต้นแยกศาลออกจากกระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่มีการตั้งหลายหน่วยงานขึ้นใน 7-8 ปีที่ผ่านมา หลายหน่วยงานตั้งมาแล้วไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายวัตถุประสงค์ที่มีการตั้งขึ้นมา หลายหน่วยงานผมคิดว่าผมไม่พอใจกับการทำงาน ไม่ใช่ไม่พอใจเลยนะครับ เพราะท้ายที่สุดหลายหน่วยงานโดนมองว่าเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งผมไม่ทราบว่าจริงหรือไม่

หลายหน่วยงานนี้รวมทั้งดีเอสไอด้วยหรือไม่

รวมทั้งดีเอสไอด้วย เขาจะเป็นจริงหรือไม่ผมยังไม่ได้พิสูจน์ แต่ว่าที่ผ่านมาจากภาพพจน์ในอดีตถึงปัจจุบันที่ผ่านมามันมองว่าเป็นเหมือนอย่างนั้น ในฐานะที่ผมอยู่ในฝ่ายกระบวนการทางกฎหมายมาตลอด ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ผมจะพยายามทำให้ภาพพจน์ตรงนี้หายไป

จะพิจารณาภาพพจน์ตรงนี้ภายในกี่วัน

ภาพพจน์ไม่ต้องใช้เวลาพิจารณาครับ เห็นอยู่แล้ว รับทราบอยู่แล้ว แต่สิ่งที่จะต้องดำเนินการคือแก้ภาพพจน์ครับ ตราบใดที่ผมนั้งอยู่ในตำแหน่งกระทรวงยุติธรรม ผมจะทำให้ดีเอสไอเป็นหน่วยงานที่ตอบสนองการแก้ไขปัญหาของประชาชน และต้องเป็นหน้วยงานที่ให้ความยุติธรรมแก้ประชาชนอย่างจริงจัง
จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องการแก้ภาพพจน์ แต่จะต้องมาตรวจสอบว่าภาพพจน์ที่คนเขารู้สึกนั้นเป็นจริงไหม ถ้าหากจริงก็ต้องแก้ ถ้าไม่จริงก็บอกว่าไม่จริง

มองว่าตำรวจในกรมสอบสวนคดีพิเศษ มากเกินไปหรือเปล่า และที่ผู้บริหารที่เป็นตำรวจ 4 คนจะแก้หรือเปล่า

คนเป็นตำรวจ หรือเป็นทหารนั้นไม่ผิด จะไปปิดกั้นไม่ให้เขาทำงานไม่ได้ แต่เมื่อเขามาทำหน้าที่ตรงนี้เขาต้องทำให้ถูกต้องตามหน้าที่นั้น ถ้าเขามาทำหน้าที่ตรงนี้แล้วคิดว่าเขาเป็นตำรวจ ก็ผิด ก็อยู่ไม่ได้ และถ้าหากเป็นทหาร ทำหน้าที่แบบทหารในหน้าที่ให้ความยุติธรรม แต่คุณไม่ให้ ก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน ผมเรียนว่าผมจะเอาภารกิจ และหน้าที่ จะเอาการทำงานเป็นหลักในการพิจารณาการทำงาน ไม่ได้พิจารณาว่าเป็นทหารอยู่ไม่ได้ เป็นตำรวจอยู่ไม่ได้

ต้องใช้เวลานานหรือไม่

ไม่นานหรอกครับ เพราะว่า ผมอาจจะต้องมอบนโยบายและมีวิธีการให้แต่ละคนพิสูจน์ในเรื่องของการทำงานอย่างเร็วที่สุด

นโยบายด้านการให้ความยุติธรรมกับประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างไร

ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกฎหมายหลัก หากดูกฎหมายในกระรทรวงยุติธรรม จะดูว่ามีกฎหมายปปง.นะครับ และหนึ่งในมูลฐานความผิดคือการก่อการร้าย ซึ่งมาจากปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และดีเอสไอ ต้องทำงานร่วมกับปปง.ให้มากขึ้น เพราะดีเอสไอ มีอำนาจในการพิสูจน์สอบสวน ผมอยากให้ดีเอสไอเข้าไปทำในเรื่องนี้ด้วย ต้องหาผู้ก่อการร้ายที่อยู่เบื้องหลังให้ได้ จะยึดทรัพย์หรือทำอะไรก็ต้องทำร่วมกับปปง. และกระทรวงอื่น

ที่ผ่านมาผมอยากเรียนว่าผมไม่เคยเหห็นบทบาทเรื่องนี้เลย ขณะที่มีการขอแก้กฎหมายปปง.พยายามอธิบายว่ามีปัยหาก่อการร้ายที่ภาคใต้จึงจำเป็นต้องแก้เพื่อแก้ให้มีอำนาจเพิ่ม แต่เมื่อมีอำนาจแล้วผมไม่เห็นเคยเห็นปปง.ใช้อำนาจนี้เลย ผมอยากให้ดีเอสไอ กับปปง.มาพิสูจน์ฝีมือเพิ่มตรงนี้หาให้ได้หาให้เจอ

จะให้กรมคุ้มครองสิทธิ ซึ่งสังกัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมแก้ไขอย่างไร

กรมคุ้มครองสิทธิ จะต้องประสานกับกระทรวงหมาดไทย กระทวงกลาโหม และกระทรวงไอซีที ในการให้ความเป็นธรรมกับประชาชน

จะนำคดีเอสซีแอสเซส กลับมาพิจารณาใหม่หรือไม่

ผมยังตอบไม่ได้ ต้องเอามาดูทุกคดีว่าถูกต้องหรือไม่ถูกต้องตามข้อกฎหมาย ถ้าไม่ถูกต้องตามข้อกฎหมายก็ต้องมาดูกัน

คดีเอสซีแอสเซส จะประสานกับนายกรณ์ จาติกวณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้าราชการที่เอื้อประโยชน์ฝ่ายการเมืองที่เกี่ยวข้องในคดีอย่างไร

เรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งจะส่งให้ป.ป.ช.ไปดำเนินการต่อ หลังจากป.ป.ช.มีมติออกมาอย่างไรแล้วเราค่อยมาดูอีกที

คดีทนายสมชาย นีละไพจิตร จะเร่งดำเนินอย่างไร

ทุกคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงยุติธรรม จะต้องกลับมาดูทั้งหมด

ไม่มีความคิดเห็น: