ป.ป.ช.เตรียมชี้มูลทุจริตรถ-เรือดับเพลิง พบนักการเมือง-ขรก.มีเอี่ยว 11 ราย "สมลักษณ์" ระบุ "อภิรักษ์" ต้องพักงานทันที หากปปช.มีมติผิดจริง จนกว่าศาลฎีกาฯจะพิพากษา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.วันที่ 11 พ.ย.นี้ ป.ป.ช.จะพิจารณาชี้มูลสำนวนคดีทุจริตการจัดซื้อรถดับเพลิง เรือดับเพลิง และอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ของกรุงเทพมหานคร มูลค่า 6,800 ล้านบาท หลังจากที่คณะอนุกรรมการไต่สวนคดีดังกล่าวที่มีนายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช.เป็นประธาน ได้สรุปสำนวนคดีว่า มีนักการเมือง และข้าราชการตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีดังกล่าว จำนวน 11 คน ประกอบด้วย
นายโภคิน พลกุล อดีตมหาดไทย
นายประชา มาลีนนท์ อดีตรมช.มหาดไทย
นายสมศักดิ์ คุณเงิน อดีตเลขานุการรมว.มหาดไทย
นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตผู้ว่าฯ กทม.
พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผอ.สำนักป้องกันสาธารณภัย กทม.
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม.
คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน อดีตปลัดกรุงเทพมหานคร
นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
นายมาริโอ มีน่าร์ ผู้แทนบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเซียลฟาย์ซอย์ เอจี แอนด์ โค เคจี
และบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเซียลฟาย์ซอย์ เอจี แอนด์ โค เคจี ในฐานะคู่สัญญากับกรุงเทพมหานคร
นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ในวันที่ 11 พ.ย. ที่ประชุม ป.ป.ช.จะมีการชี้มูลสำนวนคดีทุจริตโครงการจัดซื้อรถดับเพลิง เรือดับเพลิง ของกรุงเทพมหานคร มูลค่า 6,200 ล้านบาท ตามที่คตส.ส่งเรื่องมาให้ป.ป.ช.ดำเนินการ โดยการพิจารณาคดีนี้ป.ป.ช.จะพิจารณาพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาทีละรายว่า มีความผิดหรือไม่อย่างไร เมื่อถามว่าหาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายอภิรักษ์แล้ว ตามกฎหมายนายอภิรักษ์จะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันทีเลยหรือไม่ นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะจะต้องหารือกันในที่ประชุมเกี่ยวกับข้อกฎหมายก่อน
น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า หากในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลว่า นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. มีความผิดข้อหาทุจริตต่อหน้าที่ กรณีรถดับเพลิงกทม. นายอภิรักษ์ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ทันที จนกว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำพิพากษาออกมา ตามมาตรา 55 ของพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 กรณีนี้ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เนื่องจากตำแหน่งที่นายอภิรักษ์ถูกกล่าวหา กับตำแหน่งที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันเป็นตำแหน่งเดียวกัน คิดว่า ในวันที่ 11 พ.ย. ป.ป.ช.จะสามารถชี้มูลคดีนี้ได้ และส่วนตัวมีคำตอบเรื่องนี้อยู่ในใจเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ยืนยันว่า แม้คดีนี้จะเกี่ยวข้องกับนักการเมืองหลายคน แต่ไม่รู้สึกหนักใจ หรือกดดันในการทำงาน เพราะปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา และไม่มีใครวิ่งเต้นเกี่ยวกับคดีนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การลงมติชี้มูลคดีนี้ ป.ป.ช.จะมีมติเป็นเอกฉันท์เหมือนคดีอื่นๆที่ผ่านมาหรือไม่ น.ส.สมลักษณ์ ตอบว่า ไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาสำนวนและการตัดสินใจของกรรมการป.ป.ช.แต่ละคน อย่างไรก็ตามการชี้มูลความผิดกรณีนี้ จะใช้เสียงข้างมาก 5 ใน 9
เมื่อถามว่าประเด็นของนายอภิรักษ์นั้น ป.ป.ช.จะต้องถกเถียงและตีความกฎหมายกันมากเป็นพิเศษหรือไม่ น.ส.สมลักษณ์ กล่าวว่า อาจจะเป็นเช่นนั้น เพราะนายอภิรักษ์ได้ยื่นเอกสารหลักฐานชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการปฏิบัติหน้าที่และการทำสัญญา มายังคณะกรรมการ ป.ป.ช. หลังจากที่อนุกรรมการไตสวนข้อเท็จจริงได้สรุปสำนวนคดีเรียบร้อยแล้ว แต่มั่นใจว่าในการประชุมวันที่ 11 พ.ย.นี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะสามารถลงมติชี้มูลคดีดังกล่าว
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมที่จะชี้มูลความผิดคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกทม.ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ว่า ยังไม่ขอแสดงความเห็น ต้องให้ ป.ป.ช.พิจารณาตามกระบวนการกฎหมายก่อน ส่วนผลการวินิจฉัยจะออกมาเป็นอย่างไร ก็พร้อมที่จะเคารพ ซึ่งตนเคารพในกระบวนการยุติธรรมและเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่านายอภิรักษ์จะเป็น 1 ใน 11 คนที่จะถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการตรวจสอบ ตนไม่ขอพูดถึงในรายละเอียดใดๆ
ต่อข้อถามว่า หากถูกชี้มูลความผิดจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกเลยหรือไม่ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า คงต้องรอดูผลการหารือของ ป.ป.ช. และข้อสรุปอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตอบอะไรไม่ได้
ด้านนายวิสูตร สำเร็จวาณิชย์ ส.ก.เขตลาดกระบัง พรรคพลังประชาชน ระบุว่า หากนายอภิรักษ์ถูกชี้มูลความผิดในคดีนี้ ก็ต้องยุติการทำหน้าที่ผู้ว่าฯกทม.ทันที เพื่อแสดงสปิริตของผู้บริหาร รวมไปถึงทีมรองผู้ว่าฯกทม. คณะที่ปรึกษา ที่นายอภิรักษ์แต่งตั้ง ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปพร้อมกัน ส่วนการรักษาราชการนั้น ต้องให้เป็นหน้าที่ของนายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม. จะให้บุคคลใด บุคคลหนึ่งที่มีตำแหน่งในคณะผู้บริหารฝ่ายการเมืองมาปฏิบัติหน้าที่แทนไม่ได้ เพราะถือว่าผิดระเบียบ
วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น