วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2552

เลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายกฯปล่อยม็อบเคลื่อนไหวเต็มที่

หมวดข่าว : การเมือง
โดยทีมข่าว : รัฐสภา
นายกรัฐมนตรี ประกาศเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน กลางสภา ลั่นปล่อยทุกกลุ่มเคลื่อนไหวเต็มที่ แต่ขอ 2 ข้อ ปกป้องสถาบันฯ -หยุดการใช้ความรุนแรง ให้เวลา 2 สัปดาห์ให้ 3 ฝ่าย "รบ.-ค้าน-ส.ว." ระดมแก้รธน.หวังสร้างกติกาใหม่ เผยพร้อมยุบสภาทันที
ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ 24 เม.ย.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปิดการอภิปรายในการประชุมร่วมรัฐสภา ว่า ตลอด 2 วันที่ผ่านมาข้อมูลจากสมาชิกมีข้อมูลอาจจะทำให้ขัดเเย้ง เเต่ถือว่าเป็นการสะท้อนปัญหาเเละความรู้สึกส่วนหนึ่งของสังคม หากไม่ฟังจะเเก้ไขปัญหาได้ยาก เขาพร้อมจะรวบรวมความเห็นเเละเสียงสะท้อน เเละขอใช้เวลาอธิบายจุดยืน เเละการตัดสินใจของรัฐบาลในการทำงานว่าปัญหาที่เกิดขึ้นหากย้อนไปในการเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค. 2550 พรรคประชาธิปัตย์ได้ส.ส.อันดับที่สอง หากพรรคอันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็ต้องใช้หลักสากลทั่วไป ประชาชนลงคะเเนน 30 ล้านคะเเนน ให้พรรคพลังประชาชน กับพรรคประชาธิปัตย์ 1 เเสนกว่าคะเเนน เเต่พรรคการเมืองที่เคยประกาศทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ เเต่ไปร่วมงานกับพรรคพลังประชาชน นั้น ซึ่งเขาไม่ติดใจเเละก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
เเต่ความขัดเเย้งเกิดจากการเสนอเเก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ทำเพื่อตัวเองจนเกิดการชุมนุมประท้วง หากชุมนุมโดยสงบ อยู่ในกรอบกฎหมายก็เป็นสิทธิ เเต่สิ่งที่ผิดกฎหมายการล้อมสนามบินภาคใต้ หรือล้อมครม.ในการลงพื้นที่นั้น เขาเเสดงความไม่เห็นด้วยมาโดยตลอด รวมทั้งเมื่อมีการบุกทำเนียบฯ เขาก็เเสดงความไม่เห็นด้วยไปเเล้ว
"การทำงานของรัฐบาลนำไปสู่ความขัดเเย้งเมื่อมีการประกาศ ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพราะคน 2 กลุ่มปะทะกันก่อนถึงทำเนียบฯ เเละหลายจังหวัดก็ปะทะกัน ผมบอกว่าหากจุดหนึ่งที่รัฐบาลบริหารราชการไม่ได้ เเละมีคนต่อต้าน การยุบสภาเป็นทางที่ดี เเละพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะเสียเปรียบ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินคดีของนายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ ในเรื่องขัดเเย้งของผลประโยชน์ไม่ใช่การทำกับข้าว สภาก็เลือกนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ เเต่ยังมีความวุ่นวายเกิดขึ้นเเละชุมนุมที่สนามบินจนมีการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อมาประธานรัฐสภา เชิญหัวหน้าพรรคการเมืองมาเจรจา เขาก็พร้อมเป็นคนกลาง นายสมชาย ขอบคุณผม เเต่รัฐบาลจะขอเเก้ปัญหาเอง...
...ช่วงนั้นผมหลีกเลี่ยงการเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก เพราะจะโดนกล่าวหาว่าเรียกร้องเพื่อตัวเอง เมื่อนายสมชาย พ้นตำเเหน่ง จากการยุบพรรคการเมืองมีการเปลี่ยนเเปลง สภาจะพิจารณาเลือกนายกฯ คนใหม่ ในต่างประเทศนั้น เมื่อพรรคอันดับหนึ่งทำงานไม่ได้ก็ต้องให้สมาชิกในสภาเลือกนายกฯ คนใหม่ ถามว่าผมมีความสุขในสภาวะเเบบนั้นหรือไม่ ผมไม่อยากให้มันเกิด เเต่มีมติสภาออกมาเเล้ว ผมก็ตั้งใจพิสูจน์ว่าจะทำงานให้ทุกคน ข้อกล่าวหารัฐบาลที่ว่าจะรักษาประโยชน์ให้บางกลุ่ม เเต่ 3 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลเลือกปฎิบัติอย่างไรบ้าง ก็ไม่มี มีการสร้างกระเเสต่างๆ มากมาย เร่งเเก้ปัญหาให้คนจน เเละด้อยโอกาส ก่อนรับมือวิกฤติเศรษฐกิจ กล่าวหาว่ารัฐบาลเกรงใจกองทัพ เเต่มันก็ไม่มี มันก็ช่วยให้การไม่ยอมรับลดลงไปบ้าง"
นายกฯ กล่าวอีกว่า เขาไม่ปฎิเสธว่าคนจำนวนมากรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมในการจากรัฐประหาร เเละคนในสังคมจำนวนมากคลางเเคลงใจการทำงาน ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เเละจะตัดตอนจุดใดจุดหนึ่งไม่ได้ เว้นเเต่จะยอมรับตรงกัน การชุมนุมต้านเขาภายใต้กฎหมาย เขาเปิดโอกาสเต็มที่ เเละหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เขาเคารพการใช้สิทธิ ก่อนการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มันมีการเปลี่ยนเเปลง การลุกลามบานปลายที่พัทยา นั้น เชื่อว่าประชาชนจำนวนมากที่ทำเนียบฯ ไม่เห็นด้วย เเต่เเเกนนำบางคนบอกจะไปล้อม เเละขัดขวางการประชุม และอาสาไปจับตนด้วย เเละต้องการให้เกิดเหตุเช่นนั้น เมื่อรัฐบาลเลื่อนประชุมเเต่ผู้ชุมนุมบุกโรงเเรมไปค้นหาเขา ก่อนหน้านั้นปิดอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เเละอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
"ผมบอกไปหลายครั้งว่าพยายามไม่ประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เเต่ปีที่เเล้วมีการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินไป 2 ครั้ง เเละนายกฯ มีสิทธิประกาศเเละให้ครม.เห็นชอบภายใน 3 วัน ฉะนั้น มันจึงมีความชอบในการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉบับนี้เเต่บทบาทฝ่ายต่างๆ ไม่เหมือนกัน เเละใช้ไม่ได้ผลหลังการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉบับนี้นั้น นายสมัครเเต่งตั้งผบ.ทบ.เป็นผู้ดูเเล ผบ.ทบ.บอกว่าป้องกันไม่ให้ประชาชนปะทะกันได้เเล้ว เเละไม่มีหน้าที่ตัดสินใจ เเละเมื่อนายสมชาย ประกาศใช้ โดยมอบรมว.มหาดไทย ตำรวจบอกว่าการเข้าไปทำหน้าที่ในสนามบินนั้นมีความเสี่ยง เเละหลัง 7 ต.ค.2551 ตำรวจไม่เเน่ใจตัวบทกฎหมาย...
...เมื่อผมประกาศใช้พ.ร.ก.ฉบับนี้ก็มอบให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ดูเเล เมื่อมีทหารมาดูเเลก็มีความเสี่ยง ผมประชุมหลายครั้ง เเละกำชับความเข้าใจว่า ผมมีหน้าที่รักษากฎหมายเจ้าหน้าที่รัฐต้องหยุดสภาวะจลาจล เเละผู้ที่ทำผิดกฎหมายเท่านั้น เเละผมจะไม่ใช้กฎหมายนี้ เเละความเสี่ยงในการเสียชีวิต เเละไม่เหมาะสมจะย้อนมาที่ผม โดยผมย้ำไปหลายครั้งเเล้ว ทุกคืนผมจะได้รับรายงานการชุมนุมว่ามีประชาชนมาเท่าใด เเละตัดสินใจว่าไม่สลายการชุมนุม เพื่อประโยชน์ทางการเมืองในการไล่ล่า ทหารบอกว่ามีการยิงกันเเล้วจะยิงตอบโต้ได้ไหม ผมบอกว่า ไม่ได้ เเละขอให้อดทน ฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ ผมจะสั่งฆ่าประชาชน การปฎิบัติการก็ต้องมีสื่ออยู่ด้วยทุกครั้ง เกิดอะไรขึ้นต้องตรวจสอบเเละสอบสวนทุกคดี เเม้กระทั่งผู้ทำผิดกฎหมาย ผมย้ำว่าทุกกรณีต้องทำตามกฎหมายเท่านั้น"
นายกฯ กล่าวต่อว่า เขาขอเสนอว่า 1. รัฐสภาตั้งกรรมการขึ้นมาโดยนำข้อมูลที่เเคลงใจมาพิสูจน์ให้ความจริงออกมา มันจะพิสูจน์ความจริง เเละเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขอรบกวนวิปสามฝ่ายนำไปหารือด้วย โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุน เขาเสียใจเล็กน้อยกับบางอย่างที่เกิดขึ้นเช่นกระทรวงมหาดไทย นั้น เสียงปืนดังหลังเขาโดนล้อม 20 - 30 นาที ขับรถชนรั้วจึงรอดออกมาได้ เขาไม่เคยคิดทำร้ายใคร เเต่ภาพที่เกิดขึ้นนั้นเขาไม่สบายใจ
2.ข้อกล่าวหาต่างๆ อาทิเช่น สองมาตรฐานนั้น มันมีหลายเรื่องเเต่ไม่เกิดในรัฐบาลเขา เเต่กลับมารวมเข้าในรัฐบาลของเขา ตัวเขาจึงหนักใจเรื่องความพอดี คือ คดีความของการชุมนุมที่ต่างๆ หลายคนที่คิดว่าคดีช้าคือทำเนียบและสนามบิน เเต่มันก็เร็วกว่าที่หลายฝ่ายมองไว้ ยืนยันว่ารัฐบาลเดินหน้าเร่งรัดเพื่อให้เกิดความยุติธรรมในสังคมต่อไป แต่จะแก้ด้วยการยุบสภาหรือลาออกโดยยังมีปัญหาทางกฎหมายเเบบนี้ มันก็ไม่จบ เเละความอยุติธรรมหลายเรื่องไม่ได้เกิดสมัยเขา ส่วนจะลาออกหรือยุบสภาเพื่อรับผิดชอบ เขาก็พร้อมให้สภาตรวจสอบเมื่อมีข้อสรุปที่ชัดเจนก็รู้ว่าจะต้องตัดสินใจอย่างไร
ส่วนที่อ้างว่าการเลือกตั้งแล้วจะแก้ไขได้ ก็ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะถ้ายุบสภาวันนี้เราจะใช้กติกาอะไร ก็ใช้กติกาซึ่งหลายคนบอกไม่ยอมรับ หากยุบพรรคกันอีก ก็ยิ่งซ้ำเติมวงจรที่เป็นปัญหาขณะนี้ ทั้งนี้การเลือกตั้งจะเป็นทางออกได้ก็เมื่อบรรยากาศเอื้อที่จะหาเสียงได้โดยปราศจากความรุนแรง และการข่มขู่ การดูว่าประเทศประชาธิปไตย หรือไม่ก็ดูจากการเลือกตั้ง ถ้ามีเลือดมีตีกันไม่ใช่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
"พวกเรามีภาระปรับสภาพการเมืองให้หลุดจากสภาพการเมืองตรงนี้ก่อนไปเลือกตั้ง ผมได้ขอให้ทุกพรรคการเมือง รวมทั้งส.ว.ร่วมกันสรุปประเด็นในรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายอื่นที่คิดว่าไม่เป็นประชาธิปไตย เอามาวางตรงหน้าให้เห็นได้หรือไม่ ภายใน 2 สัปดาห์ แล้วให้ประธานสภาและวิป 3 ฝ่าย เอาข้อเสนอมาดูว่าจะให้ใครเป็นเจ้าภาพ จะเป็นกรรมการกลาง หรือการทำประชาพิจารณ์ ผมรับได้ทั้งสิ้น แล้วให้กลไกนี้ทำงานไป เมื่อแก้ไขกติกาเพื่อลดคามรุนแรง ถ้ามีกติกาใหมี่แล้วยุบสภา ผมก็ยินดี ไม่มีปัญหา เป็นทางออกเพื่อที่จะทำให้เราเดินไปข้างหน้า"
นายกฯ กล่าวต่อว่า ขอประกาศยกเลิกการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน วันนี้ ขอยืนยันว่าผู้ที่ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ไม่มีการดำเนินการว่าฝ่าฝืน พ.ร.ก.แต่ถ้ามีผู้ใดยุยงให้ไปเผา ไปฆ่า ใช้ความรุนแรง ต้องว่าไปตามความผิดอาญา และเมื่อยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน สภาพการควบคุมตัวตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องสิ้นสุดลงด้วย ยืนยันว่าเขาตั้งใจว่าไม่เอาเรื่องนี้เอาชนะคะคานกวาดล้างหรือไล่ล่าทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น
"ผมอยากขอร้องใน 2 เรื่อง คือ 1. การปกป้องสถาบันฯ ไม่ว่าจะเป็นการจาบจ้วง หรือแอบอ้างต้องยุติด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย และต้องไม่สนับสนุน ล่าสุดอดีตนายกฯ ก็ยังให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ พาดพิงสถาบันฯ ซึ่งผมได้ตรวจสอบแล้วกับผู้ที่เกี่ยวข้องยืนยันว่าสิ่งที่อดีตนายกฯ พูดไม่เป็นความจริง รวมทั้งผมได้กำชับกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องว่าการปกป้องสถาบันฯ ต้องไม่ใช้เสื้อน้ำเงิน เพราะทุกสีต้องปกป้องสถาบันฯ ด้วยกันทั้งสิ้น นอกจากนี้ในเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ต้องทำให้ชัดเจนในขอบเขตและแนวทางปฎิบัติเพื่อมิให้มีการดึงสถาบันฯ นำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง"
เรื่องที่ 2. คือความรุนแรง ล่าสุดนายจักรภพ เพ็ญแข ได้ให้สัมภาษณ์บีบีซี ว่าต่อไปการเคลื่อนไหวอาจใช้อาวุธ ขอความกรุณาว่าถ้าหันหน้าเข้าหากันทุกคนทุกพรรคต้องไม่ยอมรับแนวทางนี้ ซึ่งถ้าตกลงได้ในเงื่อนไขนี้การชุมนุมแสดงออกได้อย่างเต็มที่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย
"ผมติดตามการเตลื่อนไหวมาตลอด ไม่อยากให้คนจำนวนมากด้วยใจบริสุทธิ์มาต่อต้านความเป็นธรรม ถูกชี้นำไปโดยคนจำนวนเล็กๆ ที่พร้อมใช้ความรุนแรง มีการประกาศเป็นแผนคือทำให้เกิดความไร้ระเบียบ เพื่อให้รัฐบาลอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถจัดการได้ หรือยั่วยุให้รัฐบาลใช้ความรุนแรงตอบโต้เพื่อให้รัฐบาลเกิดปัญหา ผมเห็นแผนชัดเจน เพราะขนาดหมอดูยังฟันธงว่าผมวาสนาหมดแล้ว ถ้าเราออกจากกรอบไปได้ผมว่าเราเดินหน้าต่อไปได้ และขอโอกาสให้กับประเทศแก้ตัวจัดอาเซียนให้สำเร็จในเดือนมิ.ย. เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงประเทศแล้ว"
นายกฯ ได้เรียกร้องให้เวลากอบกู้เศรษฐกิจถ้าเราทำได้ สิ่งที่นายจตุพร พรหมพันธ์ บอกว่าอยากให้นักการเมืองได้ทำหน้าที่จริงๆ ก็จะเป็นไปได้ ถ้าทำได้เขาจะถือว่าเราได้ใช้ก้าวสำคัญผ่านกระบวนการสภานำความสงบสุขกลับคืนมา เขาเข้ามาทำงานการเมือง มีเป้าหมายเพื่อรับใช้ประชาชน แต่สุขไม่ได้ ไม่เคยให้ความสำคัญจะอยู่ในตำแหน่งนานแค่ไหนอย่างไร เพราะยึดถือตลอดว่าเมืองไทยมีคนเก่ง คนดีเยอะ เราต้องไม่สำคัญตนว่าต้องเราเท่านั้นจึงจะทำได้ เมื่อเขามีความรับผิดชอบใดจะทำสิ่งเหล่านั้นให้ดีที่สุด

3 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

hello... hapi blogging... have a nice day! just visiting here....

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

hello there and thank you for your info – I've certainly picked up something new from right here. I did however expertise a few technical issues using this website, as I experienced to reload the site a lot of times previous to I could get it to load correctly. I had been wondering if your web hosting is OK? Not that I am complaining, but slow loading instances times will very frequently affect your placement in google and can damage your high-quality score if advertising and marketing with Adwords. Anyway I am adding this RSS to my e-mail and can look out for much more of your respective exciting content. Make sure you update this again very soon.
My web site :: acid stomach remedy

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

Hey! I'm at work surfing around your blog from my new iphone 4! Just wanted to say I love reading your blog and look forward to all your posts! Keep up the fantastic work!
Also see my site > funnymariogames